พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจปฎิบัติหน้าที่ในการรับตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางกลับประเทศตามขั้นตอนของบุคคลมีหมายจับของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง รวม 3 หมายจับ
โดยก่อนหน้านี้นายทักษิณ ได้ทำหนังสือประสานขอมอบตัวกับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ก่อนที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศซึ่งถือเป็นการมอบตัว เมื่อเดินทางมาถึงตำรวจตรวจคนเข้าเมืองก็นำหมายศาลเข้าไปแสดงและอ่านหมายจับให้ทราบและเข้าสู่ขั้นตอนการยืนยันอัตลักษณ์บุคคล รวมถึงพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ได้ทำการลงบันทึกประจำวัน จากนั้นได้นำตัวไปแสดงต่อศาลฎีกาฯนักการเมือง เพื่อให้ออกหมายขังก่อนส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวไปเรือนจำพิเศษฯ ถือว่าเป็นการเสร็จสิ้นกระบวนของตำรวจ
ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวถึงความพร้อม การส่งตัวนายทักษิณ มารักษาที่ที่โรงพยาบาลตำรวจ หลังส่งตัวให้กับทางราชทัณฑ์และพบว่าผลการตรวจร่างกายนายทักษิณ ป่วยมีโรคประจำตัวหลายโรค เช่น โรคหัวใจ โรคปอด เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่มีทั้งเครื่องมือและบุคคลากรทางการแพทย์ครบ อีกทั้งเป็นหน่วยงานที่อยู่ในการกำกับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ต้องขึ้นอยู่กับความประสงค์ของราชทัณฑ์ว่าจะส่งตัวมาหรือไม่ หรือกรณีผู้ต้องขังมีการร้องขอไปรักษาตัวโรงพยาบาลอื่น ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกรมราชทัณฑ์ว่าจะอนุญาตหรือไม่ แต่หากถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยหน้าที่หลักในการดูแลความปลอดภัยเป็นของราชทัณฑ์ ซึ่งตำรวจจะสนับสนุนหรือช่วยดูแลตามการร้องขอ โดยไม่ได้เตรียมอะไรเป็นพิเศษ เพราะมีความพร้อมอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจากราชทัณฑ์ในการส่งตัวมารักษา พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวอีกว่า หลังจากที่มีมวลชนคนเสื้อแดงมาให้การต้อนรับนายทักษิณ จำนวนมาก รวมทั้งมีกลุ่มเห็นต่างนั้น ขณะนี้จากการข่าวยังไม่พบเหตุบ่งชี้ถึงความรุนแรงหรือภัยคุกคามต่อตัวนายทักษิณ ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ดี ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเจ้าหน้าที่รัฐอำนวยความสะดวกให้นายทักษิณ ซึ่งเป็นนักโทษหนีคดีพิเศษกว่าคนทั่วไปนั้น ยืนยันว่าการปฏิบัติเป็นไปตามขั้นตอน เพียงแต่นายทักษิณ เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีตำรวจก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและได้จัดกำลังดูแลความปลอดตามความเหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย