นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย สอบผ่านรัฐสภาด้วยคะแนนเห็นชอบ 482 เสียง และวานนี้มีพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อภาพทางการเมืองชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยมีนายเศรษฐา เป็นนายกฯ ที่จะเข้ามาดูแลประเทศและประชาชนต่อไป ?อินโฟเควสท์? ส่องกระแสในโลกโซเชียลว่า ประชาชนมีความคาดหวังอย่างไรกับนายเศรษฐา ว่าที่นายกฯ คนใหม่บ้าง?
DXT360 แพลตฟอร์มติดตามข่าวสารและเสียงของผู้บริโภค (Social Listening) ของบริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด ได้รวบรวมการกล่าวถึง "เศรษฐา" ในสื่อโซเชียลมีเดีย ทั้งเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ยูทูบ และทวิตเตอร์ ในช่วงวันที่ 22-23 ส.ค. 66 พบว่า ชาวโซเชียลได้มีการโพสต์และทวิตข้อความเกี่ยวกับนายเศรษฐา โดยมีจำนวนการกล่าวถึงและการมีส่วนร่วม หรือ Buzz (มาจากการกล่าวถึง (Mention) รวมกับการมีส่วนร่วม (Engagement)) ถึง 2,026,649 ครั้ง อันดับหนึ่งมาจากช่องทางเฟซบุ๊ก 1,518,617 รองลงมาคือ อินสตาแกรม 455,659 ยูทูบ 45,710 และทวิตเตอร์ 6,663 ตามลำดับ
จากการฟังเสียงบนสังคมออนไลน์ พบว่า ความคาดหวังที่มีต่อนายเศรษฐา ส่วนใหญ่เป็นการรอดูว่านโยบายของพรรคเพื่อไทยจะสามารถทำได้จริงหรือไม่ โดยนโยบายที่ประชาชนจับตามองส่วนใหญ่ ก็หนีไม่พ้นนโยบายเศรษฐกิจ และปากท้อง อาทิ นโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท, นโยบายค่าแรงขั้นต่ำวันละ 600 บาท (ภายใน 4 ปี), นโยบายเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท, นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย, นโยบายเกณฑ์ทหารเปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจ เป็นต้น
ชาวเน็ตให้ความเห็นว่า "จะรอดู ป.ตรีเงินเดือน 25,000 บ.", "รอเงินดิจิทัล 10,000 บาท ตอนเที่ยงพรุ่งนี้เลยค่ะ" หรือ "พูดแล้วไม่รู้จะทำได้ไหมเงินหมื่นดิจิทัล คนแก่แถวบ้านดีใจกันมากที่ได้เป็นนายก", "ขอรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายก่อนเลย" หรือ อย่าลืมนโยบายที่เพื่อไทยบอกไว้เริ่มจากค่าแรงขั้นต่ำ 600" เป็นต้น
ทั้งนี้ ชาวโซเชียลส่วนหนึ่งได้มีการโพสต์ข้อความเป็นการตั้งคำถามว่า นโยบายจะได้ "กี่โมง" อาทิ "เศรษฐาได้เป็นนายกละ ค่าไฟลดกี่โมง รถไฟฟ้าสร้างกี่โมง เงินดิจิทัลได้กี่โมง จะเสนอสมรสเท่าเทียมเข้าสภากี่โมง" หรือ "ดิจิทัลวอลเล็ตเข้ากี่โมง" เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ชาวโซเชียลส่วนหนึ่งโพสต์ข้อความในเชิงตั้งคำถามว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ได้มีการหาเสียงทั้งหมดนั้น จะสามารถทำได้จริงหรือไม่ หลังพรรคเพื่อไทยได้กลับคำพูดและตัดสินใจจับมือกับ 2 ลุงเพื่อจัดตั้งรัฐบาล โดยมีตัวอย่างความเห็นเกี่ยวกับนโยบายของพรรคเพื่อไทย อาทิ "มันคือเทคนิคการหาเสียง และจะทำต่อเมื่อพรรคแลนด์สไลด์เท่านั้นค่ะ" หรือ "นโยบายใช้เพื่อโฆษณาเท่านั้น" เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีนโยบายอื่นๆ นอกเหนือจากที่พรรคฯ หาเสียง อาทิ การฟรีวีซ่าให้คนจีน เนื่องจากเมื่อเดือน ก.ย.65 นายเศรษฐา ได้ให้ความเห็นแนะนำให้รัฐบาลมองข้ามช็อต ฟรีวีซ่ารับนักท่องเที่ยวจีนหลังเปิดประเทศ เนื่องจากประเทศไทยเป็นจุดมุ่งหมายที่สำคัญของนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งชาวโซเชียลได้นำประเด็นนี้กลับมาพูดถึงอีกครั้ง โดยส่วนใหญ่ค่อนข้างกังวล เนื่องจากขณะนี้มีทุนจีนสีเทาจำนวนมากขึ้น
ขณะเดียวกัน เป็นที่รู้กันว่า นายเศรษฐา ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะถือเป็นการเอื้อต่อนายทุนหรือไม่ หากมีนโยบายให้ต่างชาติสามารถถือครองอสังหาฯ ได้มากขึ้น ตัวอย่างข้อความ "ก็เอื้อธุรกิจตัวเองแหละเพราะเขาก็ทำคอนโด ลูกค้าคนต่างชาติที่จะซื้อคอนโดก็เพิ่มมากขึ้นด้วย เข้าตัวเองล้วนๆ" หรือ "เอาเข้ามาให้หมด ให้แย่งที่อยู่ที่ทำกินคนไทย" เป็นต้น
อย่างไรก็ดี นโยบายท่องเที่ยวที่ชาวโซเชียลให้ความสนใจ คือ การปลดล็อกพาสปอร์ตไทย เล่มเดียวเที่ยวได้ทั่วโลก ซึ่งในส่วนนี้นายเศรษฐา ได้แสดงความเห็นและออกมาพูดเรื่องนี้หลายครั้ง ซึ่งความเห็นในโลกโซเชียลส่วนใหญ่เป็นไปในทิศทางบวก อาทิ "รอนโยบายฟรีวีซ่าอยู่นะคะ" หรือ "ดีค่ะโครงการนี้หากทำได้" เป็นต้น