นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยถือว่าเป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทยทุกคน ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีของเสียงข้างมากในสภาฯ เท่านั้น ซึ่งในการบริหารประเทศตนขอให้รับฟังความเห็นและความคาดหวังของประชาชน รวมถึงเสียงข้างน้อยด้วย และขับเคลื่อนการทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศชาติ ซึ่งตนขอเอาใจช่วย
ประเด็นที่อยากฝากคือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคเพื่อไทยจะขอมติ ครม.ในนัดแรก เพื่อทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยตนมองว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นสำคัญและละเอียดอ่อน ควรพูดคุยและหารือร่วมกันกับทุกฝ่ายเพื่อให้เกิดความชัดเจน เช่น มีความจำเป็นต้องแก้ไขทั้งฉบับหรือไม่ หากไม่แก้ไขทั้งฉบับ ไม่ต้องใช้สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ใช้แค่ สส.ในฐานะตัวแทนประชาชน ส่วนเนื้อหาที่เกี่ยวกับสถาบันหลักของชาติ เช่น นิติบัญญัติ สถาบันตุลาการ องค์กรอิสระ ต้องระดมความเห็นเพื่อให้เกิดความชัดเจน รวมถึงต้องพิจารณาความเหมาะสม ความจำเป็น และความคุ้มค่าในการดำเนินการ เพื่อสร้างการยอมรับ
นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า ในประเด็นที่นายเศรษฐา ถูกกล่าวหาเรื่องความซื่อสัตย์ แม้ สว.จะให้ผ่านเพราะไม่มีข้อมูลเป็นที่ประจักษ์ว่านายเศรษฐาเกี่ยวข้องโดยตรง แต่หากมีผู้ยื่นเรื่องให้องค์กรที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ จำเป็นต้องชี้แจงให้ประชาชนว่าไม่เกี่ยวข้องแบบสะเด็ดน้ำ รวมถึงต้องทำผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ว่าการทำหน้าที่นายกฯ ไม่มีประวัติด่างพร้อย ที่จะส่งผลต่อความไว้วางใจ
ส่วนผลโหวตที่ สว.เสียงแตก มองว่าจะเป็นปัญหาการทำงานในอนาคตหรือไม่ นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า การทำงานในสภาฯ ต้องมีความเห็นต่าง ที่หลากหลายได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติ และในส่วน สว.เกิดขึ้นได้เช่นกัน ส่วนการลงมติที่พบว่ามีกลุ่มก้อนนั้น เพราะ สว.มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็น และมี สว.ที่เป็นอดีตข้าราชการ เพื่อนร่วมรุ่นที่ทำงานที่หลากหลาย ดังนั้นการลงมติแบบกลุ่มก้อนไม่ใช่เรื่องผิดปกติ จึงเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจในทางที่ไม่เป็นลบกับการทำหน้าที่ของ สว.