นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันขอยุติบทบาทหน้าที่ในงานการเมือง หลังจบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักษาการนายกรัฐมนตรี โดยขณะนี้ได้ทยอยเก็บของจากห้องทำงาน ที่ตึกบัญชาการ 1 แล้ว แต่ยังเก็บไม่หมด ต้องทยอยขนของอีกหลายรอบ
อย่างไรก็ดี ไม่ได้เตรียมที่จะส่งมอบงานให้รัฐบาลชุดต่อไป เพราะยังไม่ทราบว่าเป็นใครที่จะเข้ามาทำหน้าที่ เพราะกว่าที่รัฐมนตรีชุดใหม่จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ตนก็คงพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว
"จะยุติบทบาทงานทางการเมือง ซึ่งเคยคิดแบบนี้ตั้งแต่ปี 2549 แต่อีก 8 ปีต่อมา ก็มีเหตุให้กลับมาทำงานทางการเมืองอีก แต่คราวนี้ หวังว่าจะไม่มีเหตุแบบนั้นอีก เพราะขณะนี้ มีปัญหาเรื่องสุขภาพแทรกเข้ามาด้วย...ให้ไปสาบานที่ไหนก็ได้ หากใครมาชวน ก็จะเปิดพุง (แผลที่ฟอกไต) ให้ดูทุกที" นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวว่า หลังจากนี้จะขอพักผ่อนอยู่บ้านกับครอบครัว เล่นกับหลาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ตนมีความสุขมาก แต่อาจมีงานเขียนหนังสือ หรือสอนหนังสือ รวมถึงอาจจะถูกเชิญไปเป็นกรรมการบริษัทต่างๆ ส่วนหน้าที่ในสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และราชบัณฑิตยสภานั้น จะยังคงทำอยู่
ส่วนที่เคยพูดไว้เมื่อสมัยเริ่มตั้งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าสนิมจะเกิดจากเนื้อในนั้น หากมองรัฐบาลชุดนี้ ประเมินอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ถือว่าเป็นอย่างที่ตนพูด ซึ่งเรือเหล็ก ในความหมายของตน คือเรือที่มั่นคง แน่นหนา ถาวร ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ (ชุดของ พล.อ.ประยุทธ์) ก็มั่นคงแน่นหนา เพราะอยู่มาครบ 4 ปี
แต่คำว่า "สนิมเหล็ก" เกิดขึ้นในเนื้อในเหล็ก ไม่ได้เกิดขึ้นจากภายนอก ซึ่งเราเห็นได้จากความแตกแยกของคนในรัฐบาล ที่มีการแตกพรรคการเมืองออกไป จากพรรคพลังประชารัฐ กลายเป็นพรรครวมไทยสร้างชาติ นั่นก็ถือเป็นสนิมเหล็ก ส่วนรัฐบาลชุดใหม่ยัง ไม่สามารถประเมินได้ เพราะยังไม่เห็นหน้าตา
แต่การที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้รับเสียงสนับสนุนจาก สส. และ สว.เป็นจำนวนมาก เชื่อว่าจะสามารถเป็นรัฐบาลที่มั่นคงแข็งแกร่งได้ เพียงแต่การมีพรรคร่วมรัฐบาลถึง 11 พรรค ก็อาจจะมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง ย่อมเป็นเรื่องธรรมดา แต่หากสามารถก้าวข้ามหรือสลายความขัดแย้ง ก็จะส่งผลดีต่อรัฐบาล และประเทศ ส่วนจะทำได้หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่เชื่อว่าถ้าทุกคนตั้งใจประคับประคองก็จะไปได้
นายวิษณุ กล่าวถึงการสลายขั้วรัฐบาล เพื่อร่วมกันบริหารบ้านเมืองว่า นับเป็นนิมิตรหมายที่ดี นายกรัฐมนตรีในอดีตหลายคนพยายามที่จะทำอย่างเดียวกันนี้ แต่ทำไม่ได้ เพราะไม่สะดวกบ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องประวัติศาสตร์อะไร จะทำหรือไม่ทำก็ได้ ย้ำว่าการทำถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี ทำให้ข้าราชการสบายใจ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ก็ยินดี
ทั้งนี้ นายวิษณุ ปฏิเสธจะให้ความเห็นต่อรัฐบาลชุดใหม่ ที่ส่วนใหญ่เป็นคนหน้าใหม่ โดยกล่าวเพียงว่า ผู้มีส่วนได้เสียในคณะรัฐบาล บอกว่ายังไม่นิ่ง จึงยังพูดอะไรไม่ได้
สำหรับกฎหมายที่อยากให้รัฐบาลใหม่เข้ามาเร่งผลักดัน นายวิษณุ กล่าวว่า พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ซึ่งได้ตกไป เพราะอยู่ในสภาฯ และก่อนจะยุบสภามีความขัดแย้งกันหนัก ซึ่งจะต้องเริ่มดำเนินการใหม่ ซึ่งจะต้องทำให้ดีที่สุด เพราะเป็นกฎหมายตามรัฐธรรมนูญที่ยังตกค้าง และทำให้การปฏิรูปการศึกษายังมีปัญหาอยู่
ส่วนกฎหมายเก่าของรัฐบาลชุดที่แล้ว เช่น กฎหมายกัญชา พ.ร.บ. คู่ชีวิต ก็ตกไปทั้งหมด เพราะ ครม.ชุดใหม่ไม่สามารถรับรองได้ทัน เนื่องจากต้องขอภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันที่เสด็จฯ เปิดประชุมสภา ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 31 ส.ค.นี้ ทำให้ร่างกฎหมายนี้ก็ต้องตกไป และเริ่มขั้นตอนใหม่ทั้งหมด ส่วนจะนำร่างกฎหมายเดิมที่ตกไป มาเสนอใหม่หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับรัฐบาลชุดใหม่