นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรว่า หากพรรคก้าวไกลประสงค์ที่จะดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ก็ต้องแจ้งให้รัฐสภาทราบ เพื่อสละสิทธิ์ให้กับพรรคฝ่ายค้านที่ได้ สส.ลำดับรองลงมาเป็นผู้นำฝ่ายค้านต่อไป เพราะตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับจำเป็นต้องมีผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งจะต้องปฏิบัติหน้าที่ในสภาฯ และเป็นหนึ่งในกรรมการสรรหาองค์กรอิสระทั้งหลาย หรือองค์กรกลางอื่นๆ รวมทั้งคณะกรรมาธิการของสภาด้วย จึงจำเป็นต้องมีผู้นำฝ่ายค้านอยู่ในองค์ประกอบนี้
ทั้งนี้โดยปกติตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับให้พรรคที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาล ไม่ได้เป็นประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ หัวหน้าพรรคที่มีเสียงมากที่สุดในฝ่ายค้านเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งต้องเสนอเข้าไปเพื่อให้โปรดเกล้าฯ ด้วย
หากพรรคที่อันดับสูงกว่าไม่ขอเป็นเพราะมีตำแหน่งที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ว่าไม่เป็นรัฐมนตรี ไม่เป็นประธานสภาฯ และไม่เป็นรองประธานสภาฯ ก็เป็นหน้าที่ของพรรคลำดับถัดไป แต่ต้องเป็นหัวหน้าพรรค ถ้าไม่ใช่หัวหน้าพรรคก็ไม่ได้ หรือถ้าหัวหน้าพรรคไม่ได้เป็น สส.ก็ต้องเปลี่ยน ขณะที่พรรคฝ่ายค้านอันดับ 2 คือพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยังไม่มีหัวหน้าพรรคก็ต้องดูลำดับถัดไป เรียงไปตามลำดับ ซึ่งคงต้องรีบดำเนินการ เพราะมีภารกิจที่ผู้นำฝ่ายค้านต้องทำ ถึงแม้จะไม่มีกรอบเวลากำหนดไว้ก็ตาม
ส่วนการจัดสรรตำแหน่งกรรมาธิการชุดต่างๆ สามารถดำเนินการได้แล้ว เนื่องจากขณะนี้ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าพรรคใดจะได้เป็นรัฐบาล และพรรคใดจะต้องเป็นฝ่ายค้านบ้าง ซึ่งตนได้มีการพูดคุยกับนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่ 2 แล้วว่าคงจะมีการเรียกประชุมภายในสัปดาห์นี้ และจะแจ้งว่าพรรคใดจะอยู่ในกรรมาธิการใดบ้างทั้ง 35 คณะ คณะละกี่คนตามสัดส่วนของแต่ละพรรค แต่เรื่องที่ต้องคุยกันคือเรื่องที่พรรคใดจะเป็นประธานกรรมาธิการชุดใดตามสัดส่วน ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้เวลา 2-3 วัน และแล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ เพื่อให้กรรมาธิการได้เข้าร่วมประชุมและแก้ไขปัญหาที่มีเข้ามาทุกวัน ส่วนกรรมาธิการวิสามัญจะตั้งตามวาระที่สภาเสนอตามปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น