น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงการเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ รพ.ตำรวจ เมื่อวานนี้ (28 ส.ค.) ว่า ขณะนี้คุณพ่อมีอาการอ่อนเพลีย ซึ่งตั้งแต่วันที่เดินทางถึงเมืองไทย จะเห็นว่าคุณพ่อไม่ได้สดชื่นเท่าเดิม และมีอาการเครียดพอสมควร ซึ่งในวันนั้นครอบครัวได้คุยกันก็เห็นว่ามีอาการเครียด และในคืนนั้นก็ได้ทราบพร้อมกับสื่อมวลชนว่ามีการย้ายตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไปรักษาที่ รพ.ตำรวจ เนื่องจากมีอาการเครียด และอ่อนเพลีย
ทั้งนี้ เมื่อปี 63 นายทักษิณ ป่วยเป็นโควิด-19 ที่เพิ่งมีการระบาดในช่วงแรกๆ ก่อนที่จะมีการผลิตยารักษา โดยต้องเข้าพักรักษาตัวในห้องไอซียูนานถึง 9 วัน และอยู่ในโรงพยาบาล 1 เดือน ทำให้น้ำหนักตัวลดลงไป 10 กิโลกรัม โดยสภาพปอด ยังมีรอยโรคอยู่ ซึ่งนายทักษิณ พยายามออกกำลังกาย และฟื้นฟูสมรรถภาพให้คืนกลับมาได้มาก แต่ก็ต้องเข้าใจว่าคนอายุ 74 ปี และมีอาการเครียดด้วย
น.ส.แพทองธาร กล่าวถึงสภาพร่างกายและจิตใจของนายทักษิณว่า "คุณพ่อดีใจที่เจออิ๊ง คุณพ่อดีใจมาก คุณพ่อก็คือสู้ ยังสู้ และรู้สึกว่าท่านมีความเปลี่ยนแปลงเยอะ ซึ่งไม่ต้องคนอายุ 74 ปีก็ได้ แต่ใครก็ตามที่เจอสถานการณ์ที่ต้องเปลี่ยนที่อยู่ ไม่ต้องเป็นราชทัณฑ์ก็ได้ ไม่ต้องเป็นโรงพยาบาลก็ได้ แค่เปลี่ยนไปเรียนเมืองนอก หรืออะไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดความรู้สึกกับทุกๆ คน คุณพ่อก็เช่นกัน
ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่เป็นห่วง ตอนนี้ทีมคุณหมอ ก็เก่งมากๆ แล้วก็มอนิเตอร์ทุกอย่างแล้ว อีกทั้งประวัติที่ไปอยู่เมืองนอกมา การรักษาตัวได้ให้คุณหมอไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหัวใจ ปอด หรือประวัติการรักษาที่ผ่านมา 10 กว่าปี ว่าเป็นอะไรมาบ้าง ผ่าอะไรบ้าง ได้มอบให้กับทางโรงพยาบาลหมดแล้ว" น.ส.แพทองธาร กล่าว
ส่วนการถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษนั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ในส่วนนี้ขอให้เป็นดุลพินิจของคุณพ่อทั้งหมดว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งก็ไม่ได้ติดขัดอะไร ส่วนจะทำเมื่อไร อย่างไร ให้เป็นเรื่องของคุณพ่อที่จะตัดสินใจดำเนินการตามกระบวนการด้วยตัวเอง
น.ส.แพทองธาร ปฏิเสธข่าวที่ว่าต้องย้ายตัวนายทักษิณ จาก รพ.ตำรวจ ไปรักษาที่ รพ.เอกชนว่าไม่เป็นความจริง เพราะ รพ.ตำรวจมีแพทย์ที่มีความสามารถมาก ส่วนระยะเวลาที่ใช้ในการรักษานั้น ได้สอบถามไปเหมือนกัน แต่ยังไม่ทราบชัดเจน เพราะยังมีหลายปัจจัย หากเกิดเหตุด่วนขึ้นมา ก็มีความจำเป็น เพราะว่าคุณพ่ออายุมากแล้ว
ส่วนที่สังคมครหาเรื่องอภิสิทธิ์ชนนั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่ได้เสียใจอะไร แต่เป็นห่วงคุณพ่อมากกว่า และเป็นห่วงคนที่เป็นห่วงท่านด้วย แต่ก็ดีใจที่ได้ไปพบท่านเมื่อวานนี้ คุณพ่อก็เหนื่อยเพลียบ้าง เป็นห่วงเรื่องโรคหัวใจ และปัญหาเรื่องปอด แม้จะเป็นพื้นฐานเดิมที่เป็นอยู่ แต่หากเป็นอะไรขึ้นมา ก็ยังไม่เร็วเท่าหัวใจ แต่ในส่วนของข้อมูลทางการแพทย์ อยากให้สอบถามทางคุณหมอที่จะมีรายละเอียดที่ชัดเจนกว่า