พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข, นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ และ นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับสื่อมวลชนในโอกาสเข้าปฎิบัติหน้าที่ที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นวันสุดท้าย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า 9 ปีที่ผ่านมา ตนและ ครม.ระมัดระวังตัวมาโดยตลอด แนวคิดทางการเมืองหลายคนอาจจะไม่เหมือนกัน แต่ต้องทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ หากแบ่งแยกเป็นกลุ่มกลุ่มจะเกิดอันตราย จึงต้องมีหลักพื้นฐานสำคัญ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จึงไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์อะไรมาก เพราะส่วนตัวไม่มีอำนาจอะไรอยู่แล้ว และไม่เคยคิดว่าตนมีอำนาจ ทุกอย่างมาตามขั้นตอนและระเบียบของกฎหมาย
"9 ปีที่ผ่านมามองว่าความสำเร็จมีเกินครึ่ง เพราะหลายเรื่องเป็นเรื่องยาก ติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย และมีความพึงพอใจกับทุกโครงการของรัฐบาล เพราะเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์กับประชาชน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ที่ผ่านมาสิ่งที่ประทับใจคือความรักความสามัคคี และความเข้าใจว่าเราทำหน้าที่เพื่อใคร เพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชนและสถาบัน สิ่งใดที่สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วก็จะดำเนินการ แต่หลายอย่างยังติดขัดข้อกฎหมายทำให้ยังไม่เรียบร้อย
สำหรับความหวังที่มีต่อรัฐบาลใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หวังให้ประเทศพัฒนา
ส่วนการแสดงความเห็นทางการเมืองหลังจากนี้ไปอย่างไรก็ต้องพิจารณาว่าอะไรควรหรือไม่ควร เพราะไม่อยากให้ความขัดแย้ง มากไปกว่านี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับพวกเราที่จะทำให้บ้านเมืองสงบสุข ซึ่งปัจจุบันมีสื่อโซเชียลจำนวนมาก และทุกคนก็แสดงความคิดเห็น
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังฝากถึงชาวโซเชียลมีเดียว่า ขอฝากความรักความคิดถึง ตนไม่โกรธเคืองใครทั้งสิ้น ไม่ว่าจะรัก จะชมหรือจะชอบหรือไม่ชอบ จะด่า จะว่า เพราะเป็นโลกโซเชียลมีเดีย แต่ทุกคนต้องมีภูมิคุ้มกันเอาไว้บ้าง ไม่ใช่ใครเกลียดก็เกลียดด้วยทุกอย่างต้องมีเหตุมีผล หากทุกคนบิดเบี้ยวไปหมดจะเป็นอันตรายกับประเทศ
จากนั้นเปิดโอกาสให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในทำเนียบรัฐบาล นำดอกไม้เข้าอำลานายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีได้มีการให้โอวาทและถ่ายรูปร่วมกัน