นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่ตลาดร่มเขียวอุดรธานี เพื่อเดินดูตลาดเข้าโดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักมีประชาชนมาให้การต้อนรับอย่างเนืองแน่นและรุมกรี๊ดเมื่อเจอนายกฯตัวจริง ก่อนพูดว่า "ตัวจริงสูงและหล่อกว่าในทีวี" โดย นายเศรษฐา ได้ยกมือไหว้ทักทายประชาชนตลอดเส้นทาง ซึ่งทุกร้านค้าได้พยายามนำเสนอสินค้าของตนเองให้นายกฯได้ชิม ทั้งข้าวจี่ ปลาร้าบอง ถั่วคั่ว กล้วย และก๋วยเตี๋ยวหลอด ซึ่งนายกฯได้ทดลองชิมเพียงบางอย่างเพราะบางอย่างทานไม่เป็น ขณะที่นายกฯ ยังอุดหนุนสินค้าการเกษตร อาทิ ผักสวนครัว ข้าวไรซ์เบอรี่ พร้อมกันนี้ยังให้คำแนะนำกับพ่อค้าแม่ค้าพัฒนาแพคเกจจิ้งเพื่อส่งออก รวมถึงอยากใส่รายละเอียดเพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคซื้อสินค้า เพราะสินค้าบางอย่างของไทยเป็นที่ต้องการในต่างประเทศ
ช่วงหนึ่งระหว่างเดินในตลาดมีคุณลุงได้เดินมา ท้านายกฯว่า "นายกฯต้องทำให้ประเทศนี้เป็นรัฐสวัสดิการให้ได้ แล้วผมจะยอมรับ" ซึ่งนายกฯตอบกลับไปทันทีว่า "พูดแบบนี้คนอาจจะไม่เข้าใจ รัฐสวัสดิการคือ รัฐดูแลประชาชน ย้ำว่ารัฐดูแลประชาชน"
นายเศรษฐา และคณะเดินทางต่อมายัง สถานีรถไฟอุดรธานี เพื่อขึ้นรถไฟดีเซลรางนั่งปรับอากาศชั้นสองขบวนพิเศษ โบกี้ที่ 2516 เดินทางไปยังจังหวัดหนองคาย โดยระหว่างนั่งรถไฟนายเศรษฐา ได้พูดคุยกับนายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานหอการค้าไทย-จีน นายวรายุส์ ตรีวัฒนสุวรรณ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี และนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ถึงเส้นทางรถไฟรางคู่ซึ่งขณะนี้ ระยะ1 ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2558 เสร็จถึงแค่ขอนแก่น ส่วนระยะที่ 2 จะมีการเชื่อมต่อจากจังหวัดขอนแก่นมายังจังหวัดหนองคาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจและการขนส่ง ให้สามารถเชื่อมต่อจากไทยไปลาวและจีนได้ ซึ่งทางหอการค้าไทย-จีน และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี ต้องการให้รัฐบาลเร่งรัดการก่อสร้างรถไฟรางคู่ให้เสร็จก่อนปี2569 ที่อุดรธานี จะเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจทั้งเรื่องการค้าและการท่องเที่ยว
เมื่อขบวนรถไฟของนายกฯได้จอดที่สถานีรถไฟนาทา จ.หนองคาย ซึ่งเป็นจุดที่จะก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยนายกฯได้ขอรายละเอียด การพัฒนาพื้นที่นาทา ซึ่งมีแนวคิดต้องการให้เป็นจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้าแบบ One stop service ที่มีหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องกลับการเปลี่ยนถ่ายสินค้าจุดเดียวอาทิ ศุลกากร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และองค์การอาหารและยา ซึ่งปลัดกระทรวงคมนาคมได้ชี้แจงว่า การดำเนินการที่ผ่านมาแผนจะเป็นลักษณะเดียวกันกับที่นายกฯต้องการ ซึ่งจะต้องมีการประสานกับจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้าประเทศเพื่อนบ้าน โดยพื้นที่ก่อสร้างต้องเวนคืนที่ของการรถไฟโดยรอบ 193 ไร่ ใช้เงินลงทุน 5,400 ล้านบาท ซึ่งจะใช้แนวทางให้เอกชนร่วมลงทุน พร้อมกันนี้ยังรายงานต่อนายกฯว่าการขนถ่ายสินค้าระหว่างไทยกับลาว ยังมีความล่าช้าเนื่องจากเส้นทางรถไฟจุดสะพานมิตรภาพไทยลาวรับน้ำหนักได้น้อย จึงมีแผนที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการรับน้ำหนัก เพื่อทำให้การขนถ่ายสินค้าคล่องตัวและรวดเร็วมากขึ้น
ขบวนรถไฟมาถึงสถานีรถไฟหนองคาย มีประชาชนจำนวนมากรอต้อนรับอยู่ โดยได้มอบดอกกุหลาบ ผูกผ้าขาวม้า และขอถ่ายรูปกับนายกรัฐมนตรีด้วยความคึกคัก พร้อมตะโกนด้วยว่า "นายกเศรษฐา ชาวนาจะเป็นเศรษฐี" นอกจากนี้ยังมีสภาเกษตรกรจังหวัดสภาเกษตรกรหนองคายได้ยื่นหนังสือร้องเรียนกับนายกฯเพื่อขอให้แก้ไขปัญหา สิทธิทำกินและปัญหาแหล่งน้ำ