นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้เดินทางถึงอาคารรัฐสภาแต่เช้าตรู่ เพื่อแถลงนโยบายต่อรัฐสภา และเมื่อเดินทางมาถึง ได้นำพวงมาลัยไปสักการะศาลพระสยามเทวาธิราช พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระภูมิชัยมงคล และศาลตายายประจำรัฐสภา
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เดินทางมารัฐสภาครั้งแรก มีหลายความรู้สึก ทั้งเป็นเกียรติและตื่นเต้น เพราะไม่เคยเข้ามา เห็นแล้วก็อลังการดี พร้อมสำหรับการแถลงนโยบาย ไม่มีอะไรน่ากังวลเพราะเตรียมตัวมาดี ได้พูดคุยกับทีมงานมาพร้อมแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานนี้ และได้มีการแบ่งหน้าที่ให้กับรัฐมนตรีช่วยชี้แจง และพร้อมรับฟังความเห็นจากสมาชิกรัฐสภา ซึ่งในส่วนของกระทรวงการคลัง โดยเฉพาะเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ก็ต้องช่วยกันชี้แจง และพร้อมชี้แจงทุกเรื่อง รวมทั้งที่มาของเงิน
สำหรับการอภิปรายของพรรคก้าวไกลนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นไปตามหน้าที่ของฝ่ายค้าน ที่ต้องตั้งคำถามในรายละเอียดของนโยบายจากฝ่ายบริหาร ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง และสมควรทำ ส่วนบรรยากาศการประชุมนั้น อยากเห็นความสมัครสมานสามัคคี และลดความขัดแย้ง ตนจะอยู่รับฟังการอภิปรายตลอดทั้ง 2 วันนี้ และยืนยันว่าจะทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยตามที่ได้เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนเรื่องกัญชานั้นเป็นนโยบายกัญชาทางการแพทย์ และเพื่อเศรษฐกิจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้นั่งรถกอล์ฟไปสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ประดิษฐานบนพระที่นั่งพุดตาน ณ พิพิธภัณฑ์รัฐสภา และเข้ามาภายในอาคารรัฐสภา สักการะพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเดินทางเข้ารัฐสภาเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ก่อนเข้าห้องรับรองอาคารรัฐสภา เพื่อเตรียมความพร้อมในการแถลงนโยบายฯ
ด้านนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า หากนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ชี้แจงเรื่องใดในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาก็มีความพร้อม โดยเฉพาะนโยบายด้านการต่างประเทศ รวมถึงนโยบายดูแลผู้ลี้ภัยตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา และเรื่องสิทธิมนุษยชน ซึ่งเรามีข้อมูลอยู่แล้ว โดยรัฐบาลมีนโยบยที่จะดูแลเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ทั้งระดับทวิภาคีและพหุภาคี
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า นโยบายที่จะแถลงวันนี้ มาจากความเห็นชอบร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ส่วนนโยบายกัญชาเพื่อเศรษฐกิจนั้น ก็เขียนไว้ชัดเจนว่าใช้เพื่อการแพทย์และเศรษฐกิจ ที่ผ่านมาก็ผลักดันไปทางนั้น แต่มีความพยายามทำให้สังคมเข้าใจผิดว่าใช้ได้โดยไม่มีการควบคุม เป็นการมอมเมา
"เราจะผลักดันกฎหมายควบคุม ดูแลการใช้ เข้าสู่การพิจารณา" นายอนุทิน กล่าว
ส่วนการรื้อฟื้นนโยบายผู้ว่าฯ ซีอีโอ และการกระจายอำนาจการปกครองนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า หากใครมีข้อสงสัยก็ให้ถามมา การบริหารราชการแผ่นดินในจังหวัดก็ต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ว่าฯ แต่ต้องทำให้เร็วขึ้น ยึดถือประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ