นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ชี้แจงต่อที่ประชุมรัฐสภาถึงนโยบายรัฐบาลว่า เป็นครั้งแรกหลังจากที่ได้แถลงรายละเอียดไปก่อนหน้านี้ หลังจากมีสมาชิกรัฐสภาอภิปราย และตั้งคำถามในหลายประเด็น เช่น แหล่งที่มาของงบประมาณที่จะใช้ในนโยบายเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท, การลดราคาพลังงาน ลดค่าไฟฟ้า, การปราบปรามผู้อิทธิพล มาเฟีย นักค้ายาเสพติด, การพักหนี้เกษตรกร
โดยประเด็นเงินดิจิทัลวอลเล็ตนั้น ตนตระหนักดีว่า ในพื้นที่ชนบทระยะทางที่จะใช้ 4 กิโลเมตรนั้นอาจไม่เพียงพอ ซึ่งรัฐบาลจะขอดูรายละเอียดและปรับหลักเกณฑ์ให้เหมาะสมกับพื้นที่ในบางพื้นที่ อย่างไรก็ดี ในเรื่องของระยะเวลา 6 เดือนนั้นรัฐบาลจะไม่เปลี่ยน เพราะมองว่าจำเป็นต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น และเป็นการกระตุ้นครั้งใหญ่ ซึ่งให้ความสำคัญมาก
"มีบางคนบอกว่า ยกเลิกการใช้รัศมี 4 กิโลเมตร แต่ผมมองว่าเศรษฐกิจภูมิภาคต้องการกระตุ้น หากมีถิ่นฐานจังหวัดใด ควรกลับไปใช้ที่นั่น และมีเวลาใช้ 6 เดือน หากกลับบ้านเพื่อให้สถาบันครอบครัวแข็งแรง ถือเป็นเรื่องดี ดังนั้นระยะเวลาที่ใช้จะคงไว้ แต่บางจังหวัด หรือเขตจะขยายรัศมีหรือไม่ ต้องพิจารณาอีกครั้ง" นายเศรษฐา กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การพักหนี้ของเกษตรกร ยอมรับว่า 9 ปีที่ผ่านมา พบการพักหนี้ 13 ครั้ง และไม่ใช่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ดังนั้นรัฐบาลจึงมีมาตรการหลายอย่าง เช่น เพิ่มรายได้ให้เป็น 3 เท่า ภายใน 4 ปี รวมถึงใช้นวัตกรรมนำ ควบคู่กับมาตรการพักหนี้ เพื่อให้เกษตรกรฟื้นฟูตนเอง มีกำลังใจแก้ปัญหา การพักหนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน
สำหรับการผลักดันการท่องเที่ยว คือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รวดเร็ว ในระยะสั้นเพื่อนำเงินเข้าประเทศ โดยตั้งเป้าให้ภาคท่องเที่ยวสร้างรายได้ 3 ล้านล้านบาทต่อปี ขณะที่นโยบายค่าแรงขั้นต่ำจะปรับโดยเร็วที่สุด ตั้งเป้าว่าจะทำให้โตเฉลี่ย 5% ใน 4 ปี เป็นวันละ 600 บาท รวมถึงเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท
"การลดค่าใช้จ่ายพลังงาน มั่นใจว่าทำให้ค่าพลังงานต่ำลงได้ และจะคงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เป็นประโยชน์กับประชาชน การมีอยู่ ทรัพยากรธรรมชาติ ที่ดินจัดสรรให้ประชาชนสร้างประโยชน์ทำกิน ขณะที่ ส.ป.ก. หรือที่ของหน่วยงานราชการ ต้องพิจารณารูปแบบที่เหมาะสม เพื่อให้ประชาชนมีที่ดินทำกินอย่างมีศักดิ์ศรี รัฐบาลต้องดูแลให้เหมาะสมทุกมิติ ทั้งภาคเกษตรอุตสาหกรรม อุปโภคบริโภค และทำให้สมดุลกับระบบนิเวศน์ รวมถึงเร่งแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กพื้นที่ภาคเหนือ ต้องเร่งทำโดยเร็ว" นายเศรษฐา กล่าว
นายกรัฐมนตรี ชี้แจงอีกว่า การดำเนินการจะไม่ใช้เงินลงทุนจำนวนมาก รวมถึงต้องพัฒนาเรื่องอื่นๆ ตามขีดจำกัดของงบประมาณที่ทำได้ ส่วนคำถามเรื่องทุจริต รัฐบาลใหั้ความสำคัญ กับความโปร่งใส ใช้ดิจิทัลมากขึ้น เพื่อลดทุจริตประพฤติมิชอบ