นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงบุคคลที่จะเข้ามาช่วยงานในกระทรวงกลาโหม ว่า ได้เสนอ ครม.เป็นวาระจร สำหรับตำแหน่งของ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นเลขานุการ รมว.กลาโหม และตำแหน่งที่ปรึกษาฯ คือพล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เนื่องจากมีคุณสมบัติเหมาะสม และรู้งานของกองทัพ รวมถึงมีจิตใจที่อยากมาช่วยงานตน มีความรู้ และมีความสามารถ เข้าใจเรื่องระบบการบริหารของกระทรวงกลาโหม
"ยืนยันว่าไม่ใช่เด็กฝากของ พล.อ.ประยุทธ์ ท่านพักผ่อนแล้ว ไม่ควรมองว่าทุกคนที่ช่วยงานกองทัพเป็นลูกพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร ไปเสียหมด ส่วนตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี คงจะเข้ามาอีกล็อต พร้อมกับของทุกกระทรวง" นายสุทิน กล่าว
ส่วนเอกสารการแต่งตั้งนายพายัพ ชินวัตร แกนนำพรรคเพื่อไทย (ดูแลภาคอีสาน) ให้เป็นประธานที่ปรึกษา รมว. กลาโหม และนายพอพงษ์ ชินวัตร บุตรชายนายพายัพ เป็นเลขานุการประจำตัว รมว.กลาโหม นั้น นายสุทิน กล่าวว่า เป็นเอกสารที่ไม่ทราบที่มาที่ไป และตัวนายพายัพก็ไม่ทราบเรื่องนี้ ทั้งนี้ขอยืนยันว่าไม่มีคนนามสกุลชินวัตร อยู่ในคณะทำงาน
"เรื่องเหล่านี้ ทำกันง่ายมากในปัจจุบัน ใครจะพิมพ์ก็ได้ แล้วนำไปเผยแพร่ ยืนยันว่าผมไม่ทราบ และทางนายพายัพ ก็ไม่ได้พูดคุยกันถึงขนาดนั้น มีแต่พูดแซวกันเล่นว่ามีอะไรก็จะปรึกษา และที่ผ่านมา ก็ได้พูดคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่หลายคน นายพายัพก็พูดคุยกัน มีอะไรก็แนะนำกัน" นายสุทิน กล่าว
ส่วนนโยบายที่ต้องทำทันทีภายหลังเข้าทำงานอย่างเป็นทางการนั้น นายสุทิน กล่าวว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ จะไปหารือในเรื่องรายละเอียด โดยจะต้องฟังผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้ที่เกี่ยวข้องก่อน
"สิ่งที่เราคิดว่าใช่ อาจจะไม่ใช่ สิ่งที่คิดว่าไม่ใช่ ก็อาจจะใช่ ดังนั้นต้องฟังผู้บัญชาการเหล่าทัพ และนำเหตุผลมาประกอบกับสิ่งที่เรารับรู้ แล้วค่อยผลักดันเป็นนโยบายที่ถูกต้อง" รมว.กลาโหม กล่าว
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องฟังความคิดเห็นของผู้บัญชาการเหล่าทัพด้วยหรือไม่ นายสุทิน ยืนยันว่า ต้องฟังทุกส่วน ทุกสาขาอาชีพ ไม่ใช่เฉพาะแต่กองทัพ ส่วนการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น คณะเจรจาคงได้พูดคุยกัน ซึ่งอาจจะเห็นไม่ตรงกัน 100% โดยอาจจะต้องมีการมาพูดคุยกันอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ดี ทุกคนเห็นตรงกันว่าเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องทำใหม่ และทำให้ดี
สำหรับในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาที่ฝ่ายค้านออกมาโจมตีว่านโยบายกองทัพไม่มีความชัดเจนนั้น นายสุทิน กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวกับกองทัพได้เขียนไว้ชัดเจน ซึ่งจะต้องไปดูรายละเอียดที่กระทรวงกลาโหม เพราะนโยบายของรัฐบาลต้องเขียนกว้างอยู่แล้ว และค่อยไปขยายความที่กระทรวง จนลงไปถึงเหล่าทัพอื่น หากจะให้เขียนครอบคลุมทุกเรื่องคงทำไม่ได้ รวมถึงการเข้าไปดูเรื่องงบลับ ซึ่งอยู่ในนโยบายในเรื่องการจัดซื้ออาวุธยุทธโทรปกรณ์ รวมถึงการบริหารงานด้วยความโปร่งใสและตรวจสอบได้