นายเศรษฐา ทวีสินนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวถึงการแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้อยู่ในกำกับดูแลของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ แทนที่จะอยู่ในกำกับดูแลของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่า อย่าไปโฟกัสว่าใครอยู่พรรคไหน ตนพูดตั้งแต่วันแรกว่ารัฐบาลชุดนี้แม้จะมีพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 11 พรรค แต่เราก็เป็นรัฐบาลของประชาชน ขออย่าดูว่าเป็นรัฐบาลซีกไหน กลุ่มไหน ตนคิดว่าเป็นการดูแลที่ถูกฝาถูกคน เพราะนายภูมิธรรมก็ดูแลเรื่องการเกษตรและพาณิชย์ควบคู่กันไป เราเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เชื่อว่าเรื่องนี้เราไม่มีความขัดแย้งกัน
นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงหลักเกณฑ์การประเมินผล KPI ของผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจและ กอ.รมน.จังหวัด ตามนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพลว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้พูดคุยกันในรายละเอียด ต้องไปพูดคุยกับฝ่ายความมั่นคง หลังจากมีแผนงานระยะสั้น กลาง ยาว แล้วจะมาแถลงให้ทราบอีกครั้ง แต่ขอให้สบายใจได้ว่าเรื่องนี้รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่ง
นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า จะกำกับกระทรวงกลาโหมและดูแลงานด้านความมั่นคงด้วยตนเอง ซึ่งเรื่องความมั่นคงมีหลายมิติ ทั้งมิติภายในและภายนอก การปกป้องอธิปไตยของประเทศก็เป็นเรื่องที่สำคัญในภาวะภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความร้อนแรงที่จะหนักไปเรื่องทางการค้ามากกว่า แต่ตรงนี้เมื่อถึงพูดความมั่นคงด้วยดังนั้นจะต้องดูให้ดีเพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่ไม่ใหญ่มากแต่มีความภาคภูมิใจในความที่เป็นเอกราช
พร้อมย้ำว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการสร้างภาพลักษณ์เพราะการที่ตนดูแลกระทรวงการคลังและความมั่นคงด้วยตนเองนั้นเป็นเรื่องที่ต้องทำและเป็นเรื่องที่ประชาชนกำลังดูอยู่ตรงนี้ต้องดูแลให้ครบมิติ พร้อมยอมรับว่า เป็นภาระที่หนักหน่วงแต่ว่าก็เข้าใจเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ ดังนั้นต้องทำต่อไป