นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคก้าวไกลว่า ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรเป็นสิทธิของพรรคก้าวไกล เพราะเป็นพรรคที่มี สส.มากที่สุดในฝั่งของฝ่ายค้าน ซึ่งเมื่อนายพิธา ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค คนที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไป ก็จะต้องเป็น สส. เพราะจะได้สามารถทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ได้
ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เชื่อว่าจะมีการลาออกในอีกไม่นานนี้ เพื่อให้พรรคก้าวไกล มีหัวหน้าพรรคที่มีหลักเกณฑ์ครบถ้วนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ คือ จะต้องไม่มีสมาชิกที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฏร หรือรองประธาน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 106 ที่ได้กำหนดไว้ว่า ผู้นำฝ่ายค้าน ต้องเป็น สส. และเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองในสภาฯ ที่มีจำนวนสส.มากที่สุดของฝ่ายค้าน และสมาชิกมิได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ประธานสภาฯ หรือรองประธานสภาฯ
นายราเมศ กล่าวต่อว่า สำหรับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ยังมีเรื่องของคดีที่ได้กระทำความผิดฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ฐานโฆษณา ม.43 ก็จะไปผูกโยงที่จะต้องถูกตรวจสอบในเรื่องจริยธรรมต่อไป แม้มีการลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภาฯ แล้ว แต่คดีจริยธรรมก็ต้องดำเนินการต่อไป
ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฏรคนที่ 1 ก็เป็นเรื่องของเสียงข้างมากฝ่ายรัฐบาล ที่จะเลือกใครมาดำรงตำแหน่งในส่วนนี้