นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ตามที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดต่อทาบทามบุคคลที่มีความเหมาะสมอยู่ โดยพยายามให้เป็นบุคคลมาจากหลายภาคส่วน รวมถึงคนที่มีความรู้ด้านกฎหมายมหาชนให้มาก เพราะอยากให้ทุกคนมีส่วนร่วมและอยากให้มีการทำประชามติได้เร็ว
นายภูมิธรรม ยืนยันในหลักการจะไม่มีการแก้ไขหมวดหนึ่งและหมวดสองที่เกี่ยวข้องพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ และในเบื้องต้นการทำประชามติจะมีการสอบถามประชาชนว่า จะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยจะมีการหารือในส่วนของ สส.และ สว.รวมถึงทุกภาคส่วนว่าคิดอย่างไรแล้วรวบรวมทั้งหมดมาดำเนินการ และจะทำประชามติโดยเร็วและการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่จะเสร็จภายใน 4 ปีแน่นอน ถ้าได้มีการตกลงรายละเอียดและทาบทามบุคคลก็จะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่งจะเร่งทำงานทันที เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลอยากให้เกิดขึ้น ขอให้ประชาชนได้สบายใจ
ส่วนการสรรหาหัวหน้าพรรคคนใหม่จะใช้เวลาประมาณ 45 วัน ซึ่งจะเป็นใครนั้นจะรับฟังความเห็นจากสมาชิกพรรคอีกครั้ง สำหรับกระแสข่าว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะมารับหน้าที่หัวหน้าพรรคนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า น.ส.แพทองธาร เป็นคนรุ่นใหม่และมีศักยภาพมีความสามารถ แต่เป็นเรื่องที่ประชุมใหญ่จะพิจารณา พรรคพยายามให้คนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถเข้ามาบริหารพรรคมากขึ้น ส่วนคนที่มีประสบการณ์ในพรรคควรไปมีบทบาทเป็นที่ปรึกษา
ด้านนายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางเบื้องต้นในการจัดทำประชามติว่า คงจะมีการพูดคุยกันในหลายประเด็น เพราะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จะมีประเด็นเรื่องของการแก้ไขรายมาตราหรือว่าแก้ทั้งฉบับ และจะต้องทำอย่างไร โดยจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญมีความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด และทำให้สำเร็จภายในรัฐบาลชุดนี้
"ก็ต้องคุยกันก่อน เพราะอะไรที่แก้ได้และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมืองและประชาชน ให้มีความรู้สึกว่าไม่ถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพ ทำได้ก็น่าทำ ส่วนการแก้ไขทั้งฉบับก็มีกรอบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอยู่แล้วว่าต้องทำอย่างไร แก้ก็ต้องทำให้สำเร็จด้วย เพราะหากเราไปคิดแก้หลายๆ อย่าง เช่น แก้หมวด 1 หมวด 2 หรือเกี่ยวกับพระราชอำนาจก็ต้องตระหนักว่า เราจะทำได้หรือไม่เพียงใด และจะทำให้ร่างแก้ไขในวาระแรกในสภาหรือไม่ ซึ่งก็ต้องพิจารณาให้รอบด้านถึงรูปแบบวิธีการจะทำอย่างไร ผมมีหลักในการคิดว่าเมื่อถึงเวลาที่บ้านเมืองกลับสู่ประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์แบบแล้ว ก็อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหรือรัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จในสมัยของนายกฯ เศรษฐา เพราะท่านได้แถลงนโยบายไว้แล้ว เพื่อมอบให้เป็นของขวัญกับประชาชนทั้งประเทศ" นายพิชิต กล่าว