นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง กล่าวถึงความชัดเจนในการเลือกตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรกับรองประธานสภาผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกล (กก.) ว่า เรื่องนี้ยังพอมีเวลา สิ่งสำคัญที่สุดไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่งไหน แต่อยู่ที่พรรคก้าวไกลจะมีกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เป็นใคร หัวหน้าพรรคเป็นใคร จากนั้นให้เวลากรรมการบริหารพรรคในการพิจารณา
"ถ้าเราได้คณะกรรมการบริหารในวันที่ 23 ก.ย. ผมคิดว่ากว่าคณะกรรมการบริหารจะพิจารณาเรื่องต่างๆ และคงไม่ได้มีแต่เรื่องของผม ไม่ได้มีแต่เรื่องสภา แต่มีสารพัดเรื่องของพรรคก้าวไกลว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอย่างไร และมีวาระใดบ้างที่ต่างจากยุคการนำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ รักษาการหัวหน้าพรรคก้าวไกล และคณะกรรมการบริหารชุดเก่า ซึ่งผมคิดว่าเราก็มีเวลาอีกสัก 2-3 วันในการหารือกัน และคิดว่าพรรคก้าวไกลคงตัดสินใจอย่างดีที่สุดตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนและผลประโยชน์ของประเทศชาติ ซึ่งผมก็จะรอวันที่เราได้หารือกันในช่วงนั้น" นายปดิพัทธ์ กล่าว
ส่วนกระแสข่าวการขับตนออกจากพรรคเพื่อจะได้ไม่ต้องคืนเก้าอี้รองประธานสภาฯ นั้น นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า "ผมขับตัวเองไม่ได้ ข้อเท็จจริงคือเป็นหนึ่งในออปชั่น ตอนนี้เรามีหลายออปชั่น ไม่ได้มีแค่ทางเลือกใดทางเลือกหนึ่ง เรามีหลายทางเลือก เพราะว่ามันเป็นทางเลือกที่หนึ่งจะทำอย่างไรจึงจะสามารถทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ได้ สองทำอย่างไรภายใต้เงื่อนไข กติกาที่มันปรากฏ เพราะฉะนั้นไม่ได้มีแค่ทางเลือกเดียว เป็นหนึ่งในทางเลือกที่เป็นไปได้"