นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ประกาศของดบทบาทในการแสดงความคิดเห็นในที่สาธารณะทั้งการไลฟ์และงานเขียน หลังจากได้ออกมาตำหนิวิพากษ์วิจารณ์พรรคก้าวไกลอย่างตรงไปตรงมาถึงการแสดงออกต่อกรณี น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ถูกตัดสิทธิลงสมัครเลือกตั้งตลอดชีวิต แต่กลับถูกทัวร์ลงจากผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล
"วันนี้ ผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล อาจจะไม่พร้อมที่จะให้ตนวิพากษ์วิจารณ์เท่าไร ก็ไม่เป็นไร ตนได้อ่านคำวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลทั้งหมด และกลับมาคิดทบทวนว่า ถ้าสถานการณ์เดินในลักษณะที่ว่า ไม่พร้อมที่จะฟังการพูดอย่างตรงไปตรงมาของตน นับตั้งแต่นี้ตนจะพยายามไม่พูดถึงพรรคก้าวไกลอีก" นายปิยบุตร กล่าว
นายปิยบุตร กล่าวว่า การวิพากษ์วิจารณ์ของตนต่อพรรคก้าวไกล ตนไม่ได้ประโยชน์ส่วนบุคคลใดๆ มีแต่คนเกลียดมากขึ้น จากเดิมที่ตนแสดงความเห็นจะมีการต่อต้านโจมตีจากปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารของฝ่ายอนุรักษ์จารีต ซึ่งโดนมากว่า 10 ปีแล้ว ต่อมาตนช่วยพรรคก้าวไกลหาเสียงเต็มตัว ก็โดนผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยตอบโต้ วิพากษ์วิจารณ์ จนวันนี้วิจารณ์พรรคก้าวไกล ตนก็โดนผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลตำหนิติเตียน ไม่พอใจ
"พูดตรงไปตรงมา ถ้าจะโดนวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายอนุรักษ์ฯ ก็เข้าใจได้ โดนจากพรรคเพื่อไทย ก็พอจะเข้าใจได้ เพราะแข่งขันอย่างเข้มข้นในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว แล้วจะหาเรื่องใส่ตัวอีกทำไม มาวิจารณ์ก้าวไกล กลายเป็นว่าต่อไปนี้พูดอะไรไป คือมีคนจองกฐิน 3 กลุ่ม ลองคิดดูว่าทำไปทำไม ทำไปโดยที่ไม่ได้อะไรเลย ดำรงตำแหน่งไม่ได้ ลงเล่นการเมืองไม่ได้ อามิสสินจ้างก็ไม่ได้ ความนิยมชมชอบลดน้อยถอยลง เพราะมีคนด่ามากขึ้น ถามว่าทำไปทำไม สั้นๆ คือยังเชื่อมั่นในพรรคก้าวไกลอยู่ ว่าจะเป็นกำลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงประเทศ และด้วยความเชื่อมั่น ก็ต้องพูดแบบตรงไปตรงมา" นายปิยบุตร กล่าว
นายปิยบุตร กล่าวว่า ได้เตรียมข้อเขียนหนึ่งไว้นานแล้ว เป็นข้อเขียนด้วยความปรารถนาดีถึงพรรคก้าวไกล ซึ่งอาจเป็นข้อเขียนสุดท้ายที่ตนจะพูดถึงพรรคก้าวไกล และต่อไปนี้จะไม่พูดแล้ว เพราะรู้สึกว่าพูดแล้วก็จะมีผู้ที่ไม่เห็นด้วย ไม่พอใจ อย่างน้อยที่สุด ข้อเขียนสุดท้ายนี้ อยากให้พรรคก้าวไกลลองไปพิจารณา เพราะอาจเป็นประโยชน์ทั้งต่อการเมืองไทย ต่อผู้แทนราษฎรในพรรคก้าวไกล และคนที่สนับสนุนพรรคก้าวไกล
พร้อมเปรยว่า ถึงเวลาน่าจะยุติเรื่องพวกนี้ และจะกลับไปทำงานวิชาการ ส่วนเรื่องการเมืองก็ให้ว่ากันไปตามบทบาทของแต่ละคน