นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ตอบกระทู้ถามสดของนายจิรัฎฐ์ ทองสุวรรณ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล เรื่องน้ำมันของหน่วยงานทหารที่จังหวัดสระบุรีสูญหายว่า กองทัพได้ตรวจสอบแล้วพบว่ามีเบาะแส เบื้องต้นพบว่าน้ำมันดีเซลสูญหายจำนวน 2.5 แสนลิตร ซึ่งกระบวนการตรวจสอบต้องทำให้เกิดความรอบคอบก่อนจะลงโทษผู้กระทำผิด โดยภายในสัปดาห์หน้าจะสามารถสรุปผลสอบเสนอให้ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้ โดยผู้กระทำผิดต้องได้รับโทษทั้งทางวินัย ทางอาญา และแพ่ง เพื่อให้ได้คนที่ทำผิดตัวจริงการสอบสวนต้องละเอียด ไม่ใช่ความล่าช้า เมื่อมีของหายเมื่อปี 2565 และตรวจพบในปี 2566
นอกจากนี้ นายสุทิน ยังได้ชี้แจงปัญหาการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ หลังจากมีข่าวนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ได้หารือกับรัฐบาลเยอรมนี เพื่อแก้ปัญหาเครื่องยนต์ว่า เรือดำน้ำสั่งซื้อจากจีน แต่เครื่องยนต์ไม่ตรงสเปค ซึ่งต้องรอให้กองทัพเรือพิจารณาก่อนส่งต่อมายังตนในฐานะ รมว.กลาโหม พิจารณา หากตนไม่เห็นด้วยจะส่งให้ ครม.พิจารณา ขั้นตอนขณะนี้อยู่ในกระบวนการของกองทัพเรือที่ต้องพิจารณาและมีข้อสรุป ยังไม่มีข้อสรุปส่งมาให้ตนพิจารณา
"ผมทราบว่า ผบ.ทร.คนที่จะเกษียณสรุปว่าจะเดินหน้าต่อ ซึ่งผมยังรอเรื่องที่เป็นข้อสรุปจากกองทัพเรืออีกครั้ง ดังนั้นผมยังไม่สามารถให้คำตอบใดๆ ได้ หากผมด่วนสรุปจะไม่เป็นไปตามขั้นตอน ทั้งนี้กรอบการดำเนินการการจัดซื้อระหว่างประเทศ คือ จีนกับเยอรมนีมีกรอบอยู่ที่เดือนธันวาคม ดังนั้นยังมีรายละเอียดที่พอพิจารณาได้ 2-3 เดือน" นายสุทิน กล่าว
รมว.กลาโหม กล่าวว่า กรณีที่นายกฯ เจรจากับรัฐบาลเยอรมนีนั้นเป็นมาตรการเสริม แนวทางใดที่รักษาประโยชน์ของประเทศมากที่สุดในภาวะปกติจะเจรจากับผู้ขายไม่ได้ แต่ขณะนี้ไม่ปกติ เพราะทราบว่าจะไม่เกิดตามสัญญาทำให้ไทยเสียประโยชน์ ดังนั้นทางใดที่เป็นประโยชน์จึงต้องดำเนินการเพื่อไม่ให้กองทัพเสียประโยชน์ ส่วนรายละเอียดที่นายกฯ ไปเจรจาตนยังไม่ทราบ
รมว.กลาโหม ยังชี้แจงกรณีการกู้เรือหลวงสุโขทัยล่มว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในรัฐบาลที่ผ่านมา ส่วนตนรับตำแหน่ง 2-3 เดือน ดังนั้นต้องติดตามเรื่อง ทั้งนี้ได้ให้ฝ่ายจเรทหารสอดส่องดูแลหากพบความไม่ชอบมาพากล หรือนอกเหนือระเบียบราชการ หรือเอื้อประโยชน์ให้กับใคร ตนจะจัดการแน่นอน ไม่ปล่อย