นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงมาตรการควบคุมการครอบครองอาวุธปืนหลังเกิดเหตุกราดยิงว่า อาวุธปืนจะต้องมีการขึ้นทะเบียน และคนพกพาก็ต้องมีใบอนุญาต หากผิดจากนี้คือผิดกฎหมาย ซึ่งตนตั้งใจอยู่แล้วว่าจะลดจำนวนการครอบครองอาวุธปืนเพื่อลดเหตุรุนแรง โดยกำลังจะหารือกับอธิบดีกรมการปกครองในเรื่องนี้ ไม่ให้มีการอนุญาตออกใบพกปืนกับคนทั่วไป เพื่อลดจำนวนอาวุธปืน
"การได้มาซึ่งอาวุธปืนต้องมีการเข้มงวด คนที่ซื้ออาวุธปืนต้องขอใบอนุญาต ต้องลงไปดูเรื่องการซื้อกระสุนด้วย สนามยิงปืน สนามซ้อมปืน เขาก็ห้ามคนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเข้าไปใช้อาวุธปืน ทั้งหมดคือคนเลี่ยงกฎหมาย ส่วนคนที่มีหน้าที่ควบคุมกฎระเบียบ ไม่ทำหน้าที่ตนเองอย่างเคร่งครัด" นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องมาดูกันที่ผู้ละเลยด้วย ไม่ใช่แค่ผู้ก่อการ ส่วนกรณีเด็ก 14 ต้องไปดูกันให้ชัดว่าได้ปืนมาอย่างไร ไปซ้อมมาด้วย กระทรวงมหาดไทยต้องควบคุมการเข้าถึงอาวุธปืน ให้อธิบดีกรมการปกครองไปจัดการแล้ว
"เด็ก 14 พกปืน เอาเข้าจริงตามกฎหมายมันไม่ได้ ดังนั้นผู้ปกครองต้องรับผิดชอบ ต่อให้มีใบพกปืน ไม่ได้บอกว่าให้คุณเอายิงใครก็ได้ มีกฎระเบียบชัดเจน เหลืออย่างเดียวคือคนไม่เคารพกฎหมาย จากนี้ต้องควบคุม ป้องกัน เพิ่มบทลงโทษ ในเรื่องเกี่ยวกับการพกพาอาวุธ ถ้าออกประกาศได้จะดีเลย การซื้อผ่านอินเทอร์เน็ตก็ผิดกฎหมาย ถ้ามันเกิดขึ้นเท่ากับการบังคับใช้กฎหมายมีปัญหาแล้ว" นายอนุทิน กล่าว
นอกจากนี้ยังมีของเทียมปืน ของคล้ายปืน แบบนี้ก็ต้องควบคุม ได้คุยกับอธิบดีกรมการปกครองมาพอสมควร บีบีกันต้องให้ขึ้นทะเบียน ไม่ใช่ว่าซื้อง่ายขายคล่อง ของแบบนี้ต้องจำกัดการถือครอง ที่ผ่านมาพกกันง่ายเกินไป
"นี่คือโอกาสที่รัฐมนตรีก็ใหม่ อธิบดีกรมการปกครองก็ใหม่ ก็ทำให้เต็มที่ ตรงไหนกฎหมายไปได้ใช้กฎหมาย ตรงไหนไม่ได้ก็ต้องเสนอแก้กฎหมาย เราเป็นรัฐบาล 320 กว่าเสียง นี่คือโอกาสแล้ว" นายอนุทิน กล่าว