นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล (กก.) กล่าวถึงการจัดสรรตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ว่า ไม่ได้เป็นไปตามสัดส่วนที่ต้องได้ 10 คณะ เพราะเหลือเพียง 8 คณะ เนื่องจากบางคณะมีการตกลงกับพรรคการเมืองอื่นว่าจะผลัดกันเป็นประธาน กมธ.กันคนละสมัย ลักษณะแบบนี้มีอยู่ 1 คณะ ส่วนอีกคณะในฐานะที่เป็นแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน เราได้การแบ่งการทำหน้าที่ประธาน กมธ.อีกจำนวนหนึ่งให้กับพรรคร่วมฝ่ายค้านที่มีจำนวน สส.ไม่มากพอจะเป็นประธาน กมธ.เพื่อให้บรรยากาศการทำงานร่วมกันเป็นไปได้ด้วยดี
ในกรณี นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ไม่ได้ตำแหน่งประธาน กมธ.การวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี วิจัย และนวัตกรรม (อว.) นั้น กมธ.ที่เราแบ่งกับพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) เพราะพรรคไทยสร้างไทย มี สส.แค่ 6 คน เมื่อมีการคำนวณแล้วทำให้ไม่ได้ตำแหน่งประธาน กมธ.เลย แต่เราคิดว่าเมื่อเป็นเพื่อนพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกัน พรรคก้าวไกลเป็นพรรคหลักคิดว่าควรจะแบ่งสลับกันทำหน้าที่ประธาน กมธ.
นอกจากนี้ยังมีอีก กมธ.อีก 1 คณะ ที่ พรรคก้าวไกลตกลงกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไว้ เพราะอยากได้ กมธ.ตรงกัน 2 คณะ คือ กมธ.เกษตร, กมธ.ที่ดินและทรัพยากรสิ่งแวดล้อม โดยได้พูดคุยกับแกนนำ พปชร.ว่าให้ถอยคนละครึ่ง เลือกกันคนละคณะ และ พปชร.ยินดีที่จะให้ พรรคก้าวไกลได้ประธาม กมธ.ที่ดินและทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ส่วน พปชร.ก็เอาประธาน กมธ.เกษตรไป แต่ภายหลัง พปชร.ได้เสนอใหม่ว่า ในเมื่อพรรคก้าวไกลได้ กมธ.ที่ดินและทรัพยากรแล้ว ให้เอา กมธ.เกษตรไปด้วย พปชร.ยินดีที่จะทำหน้าที่ประธาน กมธ.ชุดใดก็ได้ที่ไม่มีใครเลือก แต่ พปชร.ได้ขอโควตาประธาน กมธ.ในสัดส่วนของก้าวไกลเพิ่มอีก 1 คณะ ซึ่งตัวแทนเจรจาของพรรคก้าวไกลเห็นว่า เพื่อทำให้เรื่องยุติ ไม่ยืดเยื้อ เดินหน้าไปได้ ก็จะยอมรับเงื่อนไขนี้ เพราะ กมธ.เกษตร ถือเป็นประโยชน์ในการทำงานกับประชาชนมาก ถือว่าจบลงได้ด้วยดี
นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนไม่รู้ว่าในแต่ละห้อง กมธ.มีข้อผิดพลาดอะไรบ้าง แต่ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับ สส.ในพรรคทั้งหมดแล้ว เรื่องประธาน กมธ.ถือเป็นข้อยุติแล้ว ขณะที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า อดีตผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ที่ประกาศยุติการเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้โพสต์ข้อความผ่านแอปพลิเคชั่นเอ็กซ์ (X) ว่า "มีเพื่อน ส.ส.จากพรรคก้าวไกลหลายคนบอกผมมาว่า พรรคก้าวไกลได้ประธานกรรมาธิการสามัญ 8 คน 8 คณะ ทั้งๆ ที่คำนวณสัดส่วนตาม สส. 151 คน ต้องได้ประธาน 11 คน 11 คณะ 3 คน 3 คณะ ที่หายไปกลายเป็นสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคไทยสร้างไทย เกิดอะไรขึ้น???"