นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทยและประจำสำนักเลขานายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ได้ออกมาชี้แจงยืนยันว่า โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้ประชาชนตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไป จะไม่มีการระงับ หรือยุติโดยเด็ดขาด มีแต่จะเดินหน้าต่อไปเพื่อทำให้โครงการนี้ประสบผลสำเร็จตามที่รัฐบาลได้กำหนดเป็นนโยบายรัฐบาล และแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามนโยบายพรรคเพื่อไทยที่ได้หาเสียงไว้ในการเลือกตั้ง รายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ จะมีความชัดเจนภายในเดือนตุลาคมนี้ ขอให้คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเงินดิจิทัลได้สรุปแนวทาง และเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่เพื่อพิจารณาให้รอบคอบ และเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนมากที่สุด
นางสาวตรีชฎา ยืนยันว่าหลักการของโครงการจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่จะปรับเปลี่ยนบ้างในรายละเอียด เงื่อนไขบางเรื่อง ซึ่ง นายเศรษฐาและนายจุลพันธ์ ได้พูดชัดเจนแล้วว่า รัฐบาลรับฟังเสียงสะท้อนจากทุกฝ่ายไม่ว่าจะเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย รวมทั้งจะนำข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์มาพิจารณา ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมดังที่ทุกฝ่ายต้องการ ส่วนที่มาของเงิน 5.6 แสนล้านบาท จะนำมาจากไหนนั้น เชื่อว่าคณะกรรมการที่ขับเคลื่อนเรื่องนี้จะมีความชัดเจนออกมาอย่างแน่นอน ขอให้ทุกฝ่ายอย่ากังวล เพราะพรรคเพื่อไทยในฐานะเจ้าของนโยบายยืนยันว่าจะยึดมั่นวินัยทางการเงินและการคลังอย่างรัดกุมและที่ผ่านมาในการดำเนินนโยบายต่างๆ ของพรรคตั้งแต่พรรคไทยรักไทยมาจนถึงพรรคเพื่อไทย ยึดมั่นเรื่องวินัยการเงินการคลังมาโดยตลอด
รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้ดื้อดึง หรือดันทุรังอย่างปราศจากเหตุผล แต่ตรงกันข้ามพรรคได้ศึกษานโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยผู้เชี่ยวชาญต่างๆ มาโดยตลอด ตั้งแต่ริเริ่มกระทั่งได้ข้อสรุปว่าสามารถปฏิบัติได้จริง โดยไม่เป็นภาระทางงบประมาณ แล้วจึงมีการนำเสนอนโยบายต่อพี่น้องประชาชนในการเลือกตั้ง เมื่อเข้ามาเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ นายกรัฐมนตรีซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายจุลพันธ์ซึ่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังรับดูแลรับผิดชอบด้านการเงินการคลังของประเทศ เมื่อรับฟังข้อมูล และเสียงสะท้อนอย่างครบถ้วนรอบด้านแล้ว เชื่อว่าจะวางแนวทางการดำเนินนโยบายได้อย่างรัดกุมแน่นอน อีกทั้งการได้อดีตปลัดกระทรวงการคลังคนล่าสุด คือนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ มาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ทำให้มั่นใจเพิ่มมากขึ้นว่าโครงการนี้จะมีประสิทธิภาพ และเกิดผลตามนโยบายที่สร้างประโยชน์ให้พี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน
"โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท เปรียบเหมือนการปั๊มหัวใจเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว จะเกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจ และมีเรี่ยวแรงขยับขับเคลื่อนเดินหน้าไปได้ ประชาชนมีกำลังใช้จ่าย ร้านค้าร้านขายมีสภาพคล่อง ได้เงินเข้ามาหมุนเวียน ประชาชนสามารถสร้างอาชีพได้อย่างมั่นคง เศรษฐกิจฟุบมาหลายปี คนเดือดร้อนกันทั่ว ซึ่งก็เห็นๆ กันอยู่ ขอให้พี่น้องประชาชนอย่ากังวลใจ พรรคเพื่อไทยโดยรัฐบาลที่นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน จะทำตามที่หาเสียงไว้กับพี่น้องประชาชน สร้างประโยชน์ให้พี่น้องประชาชนทุกคน และสร้างเศรษฐกิจประเทศให้กลับมากินดีอยู่ดีกันอีกครั้ง" รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว