นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า หลังมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 2 ชุด คือ คณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มอาชีพต่างๆ และคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ ได้วางกรอบเวลาไว้ว่าจะพยายามศึกษาให้เสร็จภายในเดือน ธ.ค.นี้ และราวเดือน ม.ค.67 แต่ไม่เกินไตรมาสแรกของปีหน้าต้องเสนอ ครม.อนุมัติ เพื่อดำเนินการส่งเรื่องให้ กกต.จัดทำประชามติ
ส่วนข้อสรุปว่าจะจัดทำประชามติกี่ครั้งนั้นยังมีหลายความเห็น ดังนั้นการพิจารณาจะต้องทำอย่างรอบคอบ โดยไม่ต้องให้คนไปยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือถูกตีตกไป จึงต้องพยายามตีความให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ชัดเจนว่าจะต้องทำประชามติกี่ครั้ง ให้เป็นไปตามแนวทางที่ศาลได้วางไว้
" บางคนมีความเห็นว่า 2 ครั้งน่าจะเพียงพอ เนื่องจากประหยัดงบประมาณ และบางคนมองว่าตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอาจจะต้องทำประชามติ 3 ครั้ง บางคนก็ตีความว่าอาจต้องทำประชามติถึง 4 ครั้งก็ได้ เพราะฉะนั้นเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ"
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในระหว่างนี้ไม่จำเป็นต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความอีกครั้ง เพราะเรื่องยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งศาลอาจจะไม่รับเรื่อง อาจทำให้เสียเวลา ส่วนตัวคิดว่าการศึกษาให้ชัดเจนแล้วค่อยยื่นให้ศาล หรือหากมีคนยื่นก็ค่อยดำเนินการพิจารณา ถือว่าอยู่ในกระบวนการอยู่แล้ว
ส่วนผู้ที่จะให้คำตอบได้ว่าจะผ่านศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ก็เป็นคณะกรรมการชุดที่ตั้งขึ้น ซึ่งมีบุคคลหลายฝ่ายทั้งผู้เชี่ยวชาญกฎหมาย จะเป็นคนพิจารณาแนวทางการทำประชามติอย่างรอบคอบและเกิดความคุ้มค่าและสามารถดำเนินการได้