นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี เดินทางไปยื่นคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดินส่งศาลปกครอง ระงับโครงการแจกเงิน 10,000 ดิจิทัล เพื่อป้องกันความเสียหายของประเทศ โดยระบุว่า การแจกดิจิทัล 10,000 บาท ให้คนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปทุกคน วงเงิน 560,000 ล้านบาท ถูกคัดค้านจากนักวิชาการ, อดีตผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย อดีตรัฐมนตรีคลัง และประชาชนจำนวนมาก
โดยพรรคไทยภักดี ออกแถลงการณ์ถึงรัฐบาลเศรษฐาต่อโครงการดังกล่าว
1. จะเชื่อข้อมูลอาจารย์เศรษฐศาสตร์ อดีตผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย นักวิชาการ อดีตรัฐมนตรีคลัง หรือจะเชื่อนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน เรื่องข้อมูลเศรษฐกิจ
2. ทำไมต้องแจกคนรวย นักการเมือง ไม่แจกเฉพาะคนจน คนเปราะบาง เราต้องการให้แจกเฉพาะคนจน คนเปราะบาง
3. จะเอาเงินมาจากไหน 560,000 ล้านบาท ที่ไม่มีผลกระทบต่อวินัยการเงินการคลัง จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ชัดเจน
4. ทำไมต้องแจกเป็นดิจิทัลโทเคน ทำไมไม่แจกเป็นเงินบาท (เงินสด) เพราะประชาชนคุ้นเคยกับเงินบาท ไม่คุ้นเคยกับโทเคน และต้องใช้เวลานานถึง 6 เดือนที่จะขึ้นเงินได้ พ่อค้ารายย่อยจะไม่มีเงินหมุนเวียน สุดท้ายประโยชน์จะไปที่ธุรกิจใหญ่ คนรวย ที่สำคัญมีผลประโยชน์แอบแฝงเรื่องโทเคนหรือไม่
5. มีมาตรการในการป้องกันการทุจริตอย่างไร โดยเฉพาะการซื้อสิทธิ์โทเคนราคาถูก จะเป็นการฟอกเงินครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง
6. ที่ต้องทำ เพราะเป็นนโยบายหาเสียงใช่หรือไม่
7. ขัดต่อ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 มาตรา 6 และ 9 และรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 และ 164 หรือไม่ โดยเฉพาะการสร้างความเสีหายต่อวินัยการเงินการคลัง และห้ามหาคะแนนนิยมทางการเมือง สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและประชาชนในระยะยาว
8. ขัดต่อ พ.ร.บ.เงินตรา พ.ศ.2501 หรือไม่ เพราะมีการนำโทเคนมาใช้แทนเงินตรา (มาตรา 6 และ 9 ของ พ.ร.บ.เงินตรา2501)
9. ถ้ายังเดินหน้าลุยไฟ เจอกันที่ศาลปกครอง ผ่านผู้ตรวจการแผ่นดิน มาตรา 22 (1) (2) และ 23 (2)
9.1 เสนอเพื่อระงับยับยั้ง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อระบบการเงินการคลังของประเทศ
9.2 ขอมาตรการคุ้มครองชั่วคราวระหว่างรอคำพิพากษา
"สรุปแล้วโครงการนี้ ช่วยคนรวย แต่เอาคนจนมาบังหน้า ถ้าจะแจกจริง ต้องแจกคนจนเท่านั้น และต้องแจกเป็นเงินสด" นพ.วรงค์ ระบุ