นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ตั้งกระทู้ถามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เรื่องการแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ปัญหาพนันออนไลน์ ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และขายอาวุธออนไลน์ โดยในช่วง 17 มี.ค.-30 ก.ย.66 พบว่ามีการแจ้งความออนไลน์แล้ว 114,546 เรื่อง คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย รวม 12,129 ล้านบาท ซึ่งหากรัฐบาลไม่มีมาตรการปราบบัญชีม้าให้หมด ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาที่กล่าวมาได้
นายชัยชนะ ยังตั้งคำถามถึงรัฐบาลด้วยว่า จะมีมาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญกรรมทางเทคโนโลยี และป้องกันการรับจ้างเปิดบัญชีม้าได้อย่างไร
นอกจากนี้ การที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปหลายประเทศในช่วงที่ผ่านมานั้น นายชัยชนะ อยากให้นายกรัฐมนตรีอยู่ประเทศไทยให้มากขึ้น และแก้ปัญหาภายในประเทศให้เรียบร้อย แล้วค่อยเดินทางไปต่างประเทศ ไปเชิญชวนนักลงทุนมาลงทุน
"สิ่งที่ผมเสียใจ เวลานี้เรามีนายกรัฐมนตรีที่เปรียบเสมือนไกด์ทัวร์ศูนย์เหรียญ สิ่งที่ท่านไปหลายที่ และมีผลงานชัดเจนเป็นที่ยอมรับของสังคมโลก คือ วันนี้นายกรัฐมนตรีใส่ถุงเท้าสีอะไร...สิ่งที่นายกฯ ไปนั้น ประเทศยังไม่ได้รับประโยชน์" นายชัยชนะ กล่าว
ด้านนายเศรษฐา ตอบกระทู้ถามสดของนายชัยชนะ โดยยืนยันว่า รัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องการปราบอาชญากรรมด้านไซเบอร์ และไม่ต้องการให้ธุรกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีการแจ้งคดีออนไลน์กว่า 3 แสนคดี มูลค่าความเสียหาย 4.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งตนได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เร่งดำเนินการเชิงรุกให้จับตัวผู้กระทำผิดให้ได้ ซึ่งขณะนี้กระทรวงดีอีเอส ได้เพิ่มการจับกุมเว็ปพนันออนไลน์ เพิ่มขึ้นจาก 6 เว็ปไซต์ เป็น 70 เว็ปไซต์ต่อวัน
อย่างไรก็ดี มีมาตรการเร่งด่วนในการแก้ปัญหา คือ การแจ้งเตือนข้อความผ่านทางโทรศัพท์มือถือ เตือนประชาชนผ่านแอปฯ เป๋าตังเรื่องการกู้เงิน พร้อมทั้งเร่งดำเนินการระงับซิมผี บัญชีม้าทั้งหมด จัดตั้งวอร์รูมเพื่อประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจะมีการแก้ไขกฏหมายเพื่อการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน จัดตั้งชุดเฉพาะกิจเพื่อประสานงานร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน จับกุมผู้กระทำผิดทั้งคนไทยและต่างชาติ
ส่วนการแก้ไขปัญหาบัญชีม้า หรือผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชีธนาคารนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านอาชญกรรมออนไลน์ เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาและได้กำชับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้เร่งรัดการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด
ส่วนการเดินทางไปต่างประเทศ บางเรื่องก็มีผลงานออกมาทันที เรื่องบางเรื่องต้องมีการเจรจา การลงทุน และดูในข้อกฏหมายก่อน และหวังว่าการเดินทางไปเจรจากับแต่ละประเทศก็จะนำประโยชน์กลับมาให้กับประเทศ อย่างไรก็ตาม ตนพร้อมน้อมรับคำแนะนำ และจะพยายามหาจุดสมดุลที่ทุกคนรับได้ และเป็นประโยชน์ให้กับคนไทยทุกคน