นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลออกมาระบุถึงเหตุผลที่รัฐบาลไม่กล้ายุบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เนื่องจากเกรงกลัวทหาร โดยย้อนถามกลับว่า หากพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลจะกล้ายุบหรือไม่ คนยังไม่เป็นรัฐบาลก็พูดได้ ซึ่งการจะยุบหน่วยงานใดต้องมีการประเมินข้อมูลจากหลายปัจจัย
"มีปัจจัยหลายเรื่อง บางเรื่องมันพูดได้ บางเรื่องพูดไม่ได้ และบางข้อมูลเปิดเผยไม่ได้ ดังนั้นคนที่ยังไม่ได้เป็นรัฐบาลก็พูดได้ทุกอย่าง แต่พอมาเป็นแล้ว ต้องมาดูความเป็นไปได้อีกครั้ง" รมว.กลาโหม กล่าว
นายสุทิน ยังกล่าวถึงการปรับโครงสร้างกำลังพลของกองทัพว่า คณะทำงานได้สรุปข้อมูลมาเป็นระยะ ขณะนี้เป็นขั้นตอนการเสนอแนวทางว่าจะปรับอย่างไร ซึ่งแผนเดิมกองบัญชาการกองทัพไทย ก็มีการปรับตามแผนเดิมที่ทำไว้ว่าปี 2570 กำลังพลจะลดลงมาก และมีการเพิ่มมาตรการจูงใจเรื่องการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นแรงจูงใจที่ทำให้ทหารที่ไม่ใช่สายหลักเข้าโครงการจำนวนมาก และทำให้กำลังพลลดลงมาก
ส่วนจำนวนจะปรับลดลงเหลือเท่าใดนั้น ขณะนี้กำลังทำตัวเลข แต่ยืนยันว่าจะลดลงมาก ก่อนที่จะย้ำว่าในปี 2570 กำลังพลในชั้นนายพล จะลดลงไม่น้อยกว่า 20-30% จากเดิมที่มีเพียง 10% พร้อมกับยืนยันว่า เงินที่ใช้ในโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดน้อยกว่างบประมาณที่จะใช้ หากข้าราชการยังอยู่ครบอายุงาน ซึ่งจะส่งผลให้ทั้งงบประมาณและกำลังพลลดลง ขณะเดียวกันภารกิจจะมีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ โดยเฉพาะภัยคุกคามรูปแบบใหม่
รมว.กลาโหม ยังกล่าวถึงข่าวดีของผู้สมัครใจเข้ารับราชการทหารกองเกินผ่านระบบออนไลน์ว่า ในปีนี้มีจำนวนมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อวานเป็นวันรายงานตัวรอบแรก สำหรับตัวเลขสรุปรวมนั้นต้องรอในวันพรุ่งนี้ (3 พ.ย.) ซึ่งจะเป็นวันครบระยะการรายงานตัว
"ความรู้สึกของประชาชน ถือเป็นสัญญาณบวกกับกองทัพ ขอประชาสัมพันธ์ไปยังบุตรหลานเยาวชน จากเดิมการเป็นทหารเกณฑ์ 2 ปี คิดว่าเป็นการเสียโอกาส ทำให้ชีวิตสะดุด แต่ขณะนี้กองทัพจะทำให้ 2 ปีเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับชีวิต ทุกคนที่เข้ามาเป็นทหารเกณฑ์จะได้รับโอกาสใหม่ๆ ดีๆ จาก 2 ปีที่เอาคนมาฝึกทหาร จะเป็น 2 ปีในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ทั้งด้านการรบ และการศึกษาที่จะมีการทำ MOU กับกระทรวงการอุดมศึกษาวิจัยและนวัตกรรม ซึ่งจะเป็นการนำร่องในบางมหาวิทยาลัยก่อน และสุดท้ายจะครอบคลุมทั้งหมด ให้สามารถเรียนผ่านระบบออนไลน์จนจบการศึกษา คู่ขนานไปพร้อมกับการเข้ารับราชการทหารกองเกิน" นายสุทิน ระบุ