นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงผลการลงมติขับนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือ ปูอัด ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล โดยที่ประชุมร่วมมีมติเอกฉันท์ 128 เสียง ให้ขับนายไชยามพวาน ออกจากการเป็นสมาชิกพรรค เนื่องจากไม่ได้ปฏิบัติตามข้อเสนอที่ทางคณะกรรมการบริหารพรรคภายในระยะเวลาที่กำหนด
ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลได้ส่งหนังสืออย่างเป็นทางการถึงนายไชยามพวานเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุให้ปฏิบัติ 4 ข้อดังนี้
1. แถลงยอมรับผิดและขอโทษในทางสาธารณะต่อสังคมกับผู้เสียหายทั้ง 3 รายอย่างจริงใจ ภายในวันที่ 4 พ.ย.
2. ชดเชยเยียวยาความเสียหายตามสมควรแก่กรณีต่อผู้เสียหายทั้ง 3 ราย
3.ยุติการก่อความเสียหาย ต่อผู้เสียหายทั้ง 3 ราย โดยทางตรงและทางอ้อม
4. ยุติการการกระทำอันเป็นการล่วงเกิน คุกคาม หรือก่อความเดือดร้อนรำคาญทางเพศ หรือกระทำการขัดหรือแย้งต่ออุดมการณ์และข้อบังคับพรรค ต่อบุคคลอื่นใด ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งสมาชิกพรรคซึ่ง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตลอดสมัยการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนี้
นายชัยธวัช ระบุว่า หลังจาก นายไชยามพวาน แถลงแล้ว กรรมการบริหารพรรคได้ประชุมกันเห็นว่าการแถลงดังกล่าวไม่ได้เป็นตามคำสั่ง แม้จะมีการกล่าวทำนองยอมรับว่ามีการคุกคามทางเพศจริง และยอมรับมติพรรค แต่โดยเนื้อหาสาระกลับเป็นการนำข้อมูลผู้เสียหายบางส่วนมาแก้ต่างเพื่อจะบอกว่าตัวไม่ผิด รวมทั้งเปิดเผยตัวตนของผู้เสียหาย รวมถึงกล่าวอ้างถึงเสื้อสูทและเน็คไทได้รับจากพ่อผู้เสียหายจนเชื่อมโยงได้ว่าผู้เสียหายเป็นใคร แม้ว่าทางพรรคจะระมัดระวังเรื่องนี้มาโดยตลอด
หลังจากนายไชยามพวาน เปิดตัวตนของผู้เสียหาย ทำให้ครอบครัวรู้ว่าลูกสาวเป็นผู้เสียหาย จึงได้เข้าพบครอบครัวเพื่อขอโทษสิ่งที่เกิดขึ้น พ่อของผู้เสียหายยืนยันว่าการซื้อสูทและเน็คไทให้ไม่ได้แสดงถึงความสัมพัน์ส่วนตัวในลักษณะที่นายไชยามพวาน ต้องการสื่อ แต่เพราะเขาเป็นผู้สนับสนุนพรรคตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่ ครอบครัวรู้สึกเสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งตนองได้พูดคุยหลายเรื่องกับครอบครัว และเพิ่งทราบว่าผู้เสียหายคือใคร จึงได้พูดคุยเรื่องการช่วยเหลือการต่อสู้ทางกฎหมายด้วย
อย่างไรก็ตาม วันนี้มีผู้มาร่วมประชุม 128 คนวันนี้เห็นตรงกับมติของกรรมการบริหารพรรคว่า ว่าการกระทำของ นายไชยามพยาวาน เป็นการขัดมติพรรค ไม่ได้แสดงการรับผิดและขอโทษอย่างจริงใจและสร้างความเสียหายซ้ำทั้งทางตรงและทางอ้อม จึงมีมติเอกฉันท์ให้ นายไชยามพวาน พ้นจากสมาชิกพรรคตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
นายชัยธวัช ยังได้แถลงถึงกรณีนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี ซึ่งถูกขับออกจากพรรคจากกรณีถูกกล่าวหามีพฤติกรรมคุกคามทางเพศว่า ขอชี้แจงเรื่องนายวุฒิพงศ์ให้ข้อมูลสร้างความเสียหาย กระทบต่อพรรค ว่าการที่ถูกขับออกจากสมาชิกพรรคเนื่องจากมีทีมงานคนหนึ่งใน จ.ปราจีนบุรี รับผลประโยชน์จากบริษัทบ่อขยะ ซึ่งเป็นผู้ช่วย สส. ทำงานใกล้ชิดกับกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) คนหนึ่งต้องการกลั่นแกล้ง จนเป็นเหตุให้ถูกขับออกนั้น ขอเรียนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นไปตามข้อกล่าวหานี้
ผู้บริหารพรรคได้รับทราบเรื่องข้อมูลที่อดีต สส.ปราจีนบุรี ร้องเรียนระหว่างที่แก้ข้อกล่าวหาเรื่องคุกคามทางเพศ พยายามนำเรื่องนี้มาโต้แย้งว่ามีเหตุจูงใจจากผลประโยชน์ทางการเมือง ที่มีเจ้าหน้าที่พรรคไปรับผลประโยชน์ เมื่อผู้บริหารพรรคทราบจากกรรมการวินัยและตัวอดีต สส. พรรคไม่ได้นิ่งนอนใจเรื่องนี้ เพียงแต่ผู้บริหารได้คุยกับ กก.วินัยของพรรคว่าต้องพิจารณาแยกจากกัน หมายความว่าข้อเท็จจริงนี้ไม่เกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่องคุกคามทางเพศ ต้องพิจารณาแยกจากกัน เราพิจารณาจากข้อเท็จจริงแต่ละเรื่อง
แม้ว่าผู้ถูกกล่าวหาว่าใส่ร้ายเป็นผู้ช่วยและใกล้ชิดกับ น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ซึ่งเป็น กก.บห. ก็ไม่ส่งผลต่อการพิจารณาเช่นกัน และไม่ได้มีส่วนในขั้นตอนโหวตของ กก.วินัย เนื่องจากน.ส.เบญจา ไม่ได้มีส่วนในการโหวตของกก.วินัย และผลการพิจารณาของกก.วินัย ส่งมาที่ กก.บห. โดยน.ส.เบญจา ก็ของดออกเสียงเพราะทราบดีว่าถูกกล่าวหามีส่วนเกี่ยวข้อง กก.ที่เหลือลงมติเอกฉันท์ว่า อดีต สส.ปราจีนฯมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศจริง