นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เดินทางไปยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 231 (1) ประกอบมาตรา 23 (1) แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน 2560 เพื่อเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่า พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ที่จะนำมาใช้ในโครงการแจกดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทของรัฐบาล ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 140 ประกอบ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 มาตรา 53 หรือไม่
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ออกมาแถลงรายละเอียดในโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทให้กับประชาชนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป โดยต้องเป็นผู้มีรายได้ต่ำกว่า 7 หมื่นบาทต่อเดือน และมีเงินฝากต่ำกว่า 5 แสนบาท โดยแหล่งเงินที่จะนำมาแจกคือ การออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ นายเศรษฐา พูดมาโดยตลอดว่าจะไม่กู้เงินมาดำเนินการโครงการนี้แต่อย่างใด อันถือเป็นการตระบัดสัตย์ของผู้นำประเทศ ที่ทำให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างรุนแรง
"การกลืนน้ำลายตัวเอง โดยใช้ช่องทางในการกู้เงินมาแจกดังกล่าว เป็นไปเพื่อสร้างความนิยมทางการเมืองเท่านั้น อันอาจขัดต่อ มาตรา 9 วรรคสาม แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ 2561 อีกทั้งไม่เข้าข่ายเป็นกรณีที่มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการโดยเร่งด่วนและอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติของประเทศ โดยไม่อาจตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ทันตาม มาตรา 53 ของกฎหมายดังกล่าวแต่อย่างใด อีกทั้งการจะออกกฎหมายกู้เงินดังกล่าว ซึ่งเป็นกฎหมายการเงิน จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ 2548 โดยเคร่งครัดด้วย โดยเฉพาะใน มาตรา 20 และมาตรา 22" นายศรีสุวรรณ กล่าว
นอกจากนั้น ยังอาจไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 140 ที่บัญญัติไว้ชัดเจนว่า การจ่ายเงินแผ่นดิน จะกระทำได้เฉพาะที่ได้อนุญาตไว้ในกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย กฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ หรือกฎหมายเกี่ยวด้วยการโอนงบประมาณ กฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง หรือกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ เว้นแต่ในกรณีจำเป็นรีบด่วนเท่านั้น
"การที่รัฐบาลของนายเศรษฐา จะกูเงินมาแจกโดยออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงินนั้น เป็นการเลี่ยงบาลี เพื่อต้องการสร้างภาพในการตอบสนองนโยบายที่พรรคของตนเคยหาเสียงไว้ในช่วงเลือกตั้งเท่านั้น แต่คนไทยทั้ง 70 ล้านคน จะต้องมาร่วมกันแบกรับหนี้ เพื่อร่วมกันใช้ดอกเบี้ย ร่วมกันใช้หนี้ในอนาคตกันทุกคน ไม่ว่าจะรวย หรือจน จึงเป็นการสร้างภาระให้กับคนในอนาคตต่อไปด้วย" นายศรีสุวรรณ กล่าว
ดังนั้น "องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน" จึงไม่อาจปล่อยให้รัฐบาลใช้อำนาจไปตามอำเภอใจดังกล่าวได้ จึงได้นำความมาร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่า การออก พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทดังกล่าว ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 140 ประกอบมาตรา 53 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 หรือไม่ อย่างไร เพื่อยุติการใช้อำนาจรัฐเพื่อประโยชน์ทางการเมือง บนความเสียหายของวินัยการเงินการคลังของชาติต่อไป