นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชน เข้ายื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อริเริ่มรวบรวมรายชื่อประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 10,000 รายชื่อ เสนอร่างกฎหมายปฏิรูปเครดิตบูโร โดยมีนายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นตัวแทนรับหนังสือ
นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า เหตุการณ์ยิงลูกหนี้เมื่อวานนี้ สะท้อนถึงปัญหาหนี้นอกระบบร้ายแรงที่ต้องเร่งแก้ไข หนี้ครัวเรือนตอนนี้สูงถึง 5.6 แสนบาทต่อครัวเรือนแล้ว ซึ่งสิ่งที่พวกเรานำเสนอ คือ การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ด้วยการเสนอ "ร่างกฎหมายปฏิรูปเครดิตบูโร" ปฏิรูปการแจ้งข้อมูลจากการรายงานประวัติดี-เสีย ปะปนตลอด 3 ปี เป็นการรายงานคะแนนเครดิต ซึ่งใครคะแนนดีได้ดอกเบี้ยต่ำลง ธนาคารจะเกิดการแข่งขัน ลูกหนี้เองก็มีกำลังใจสร้างเครดิตตัวเอง โดยใครสามารถชำระหนี้เสร็จสิ้น หรือกลับมาชำระหนี้ได้ปกติ 6 เดือนติดต่อกัน จะลบประวัติทิ้งทันที และไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการตรวจคะแนนเครดิตของตนด้วย
"วิธีนี้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน โดยเฉพาะคนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 ที่ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้ ร่างกฎหมายปฏิรูปเครดิตบูโรนี้ จะสร้างโอกาสให้กลับมาเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำได้ ไม่ต้องไปกู้หนี้นอกระบบดอกเบี้ยโหด หากทำสำเร็จ คนทำงานจะฟื้นตัวได้เร็ว ซึ่งขณะนี้ลูกหนี้ที่ถูกแช่แข็งทางการเงินมีกว่า 5 ล้านคน" นายอรรถวิชช์ กล่าว
พร้อมระบุว่า ขณะนี้ภาคีเครือข่ายของเรา มีทั้งภาคประชาชน และนักการเงิน-การธนาคาร ที่มาช่วยกันลงรายละเอียดในตัวร่างกฎหมาย อาทิ นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง, นายนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์ อดีตผู้จัดการใหญ่ บริษัทข้อมูลเครดิต, นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา รองเลขาธิการองค์กรของผู้บริโภค และอีกหลายท่าน
"หวังว่านายกฯ เศรษฐา ที่ประกาศให้การแก้หนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติ จะร่วมสนับสนุนร่างกฎหมายภาคประชาชนฉบับนี้ เป็นทางออกแก้หนี้นอกระบบ และขอเชิญชวนผู้เดือดร้อน คนทำมาหากิน มาร่วมกันแสดงพลัง ลงชื่อสนับสนุนร่างกฎหมายปฏิรูปเครดิตบูโร ให้เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเมื่อสภาฯ ตรวจสอบ และมีช่องทางให้ลงชื่อแล้ว เราจะเปิดตัวเว็บไซต์ให้ร่วมกันลงชื่อกันทันที" นายอรรถวิชช์ ระบุ