นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงข้อกังวลของหลายฝ่ายเกี่ยวกับเงื่อนไขใน พ.ร.บ.ประชามติ ว่า ทั้งรัฐบาล ฝ่ายค้าน และภาคส่วนอื่นๆ มีข้อห่วงใยเกี่ยวกับการทำกฎหมายประชามติ ที่ต้องใช้เกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้น หรือ Double majority ที่บัญญัติในมาตรา 13 ของ พ.ร.บ.ประชามติ ที่อาจไม่เป็นธรรมต่อการทำประชามติในทุกหัวข้อ
ซึ่งเกณฑ์ชั้นที่ 1 คือ จะต้องมีจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ เกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ ส่วนชั้นที่ 2 คือ จะต้องมีเสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งของผู้ที่ออกมาใช้สิทธิ ซึ่งมีความสุ่มเสี่ยง
"หากคนที่ไม่เห็นด้วยกับประเด็นที่ถูกถาม แทนที่จะออกมาใช้สิทธิ แต่ใช้วิธีนอนอยู่บ้าน เพื่อคว่ำประชามติแทน และหากบวกกับจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ ก็จะไม่ถึงเกณฑ์เสียงข้างมากชั้นแรก ก็จะทำให้ตกไป" นายพริษฐ์ ระบุ
ดังนั้น มองว่าควรทบทวนตัวกติกานี้ โดยเฉพาะชั้นแรก พร้อมเสนอทางเลือกในการแก้ไข 2 ประเด็นคือ ยกเลิกเกณฑ์ชั้นที่ 1 ไม่ต้องกำหนดจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิเกินกึ่งหนึ่ง ซึ่งบางประเทศ ไม่มีเกณฑ์ใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น และประชามติ 2 ครั้งของประเทศไทย ในการทำประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 และ 2560 ก็ไม่ได้มีการกำหนดเกณฑ์สัดส่วนผู้ออกมาใช้สิทธิ ส่วนอีกหนึ่งทางคือ ให้เขียนว่าคนออกมาใช้สิทธิ และลงคะแนนเห็นชอบเกิน 25% หรือ 1 ใน 4 ของผู้มีสิทธิทั้งหมด ซึ่งจะสามารถป้องกันยุทธศาสตร์การนอนอยู่บ้าน เพื่อคว่ำประธรรมมติได้
สำหรับกระบวนการในการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวนั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า วิธีในการแก้ไขกฎหมายคือ เรียบง่ายตรงไปตรงมาที่สุด คือ ให้รัฐบาลและฝ่ายค้าน ร่วมกันยื่นแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.ประชามติ มาตรา 13 ซึ่ง ถ้าดำเนินการยื่นเสนอไว้ เมื่อสภาฯ เปิดสมัยประชุมช่วงเดือนธันวาคม ก็สามารถที่จะพิจารณาวาระแรกได้ทันที และเชื่อว่าจะสามารถผ่าน 3 วาระไปได้
"เชื่อว่าจะสามารถผ่านทั้ง 3 วาระได้ โดยจะไม่กระทบต่อกรอบเวลาในการจัดทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล ตามไทม์ไลน์ที่รัฐบาลวางไว้ ว่าจะเคาะว่าจะทำประชามติหรือไม่ ในช่วงต้นเดือนมกราคม 2567 เพราะเป็นการแก้ไขแค่มาตราเดียว" นายพริษฐ์ ระบุ
ขณะเดียวกัน ยังเห็นว่านอกจากประเด็นเรื่อง มาตรา 13 เกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้นแล้ว ถ้าจะแก้ไขพ.ร.บ.ประชามติ โดยไม่กระทบกรอบเวลาในการพิจารณา ก็อาจพิจารณาประเด็นอื่นควบคู่ไปด้วย เช่น จะทำอย่างไรให้กฎหมายประชามติ รองรับการจัดทำประชามติวันเดียวกับการเลือกตั้งอื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้ง สส. หรือเลือกตั้งท้องถิ่น ที่ปัจจุบันมีข้อจำกัดที่อาจทำให้การดำเนินการด้านธุรการยุ่งยาก นอกจากนี้ยังเสนอให้แก้ไขกรณีการเข้าชื่อของประชาชนเพื่อทำประชามติ 50,000 รายชื่อทางออนไลน์ได้ด้วย
"ถ้าแก้ไปด้วยพร้อมกัน ก็จะเป็นวิธีหนึ่ง ที่จะทำให้สามารถเลือกวันลงประชามติได้ยืดหยุ่นมากขึ้น และอาจมีประชาชนออกมาใช้สิทธิมากขึ้นในช่วงพร้อมกับการเลือกตั้ง" นายพริษฐ์ กล่าว