ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องแกนนำกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ชุดกลาง ได้แก่ นายนัสเซอร์ ยีหมะ, นายอุทัย ยอดมณี, นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา, น.ส.จิตภัสร์ หรือตั๊น กฤดากร, นายพานสุวรรณ ณแก้ว, นายประกอบกิจ อินทร์ทอง และนายกิตติศักดิ์ ปรกติ ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-7 ในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุม เป็นกบฏ สมคบกันใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญฯ ต่อต้านการบริหารราชการแผ่นดินและขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้พ้นจากตำแหน่ง ยุยง ปลุกระดม ให้ประชาชนกระด้างกระเดื่อง
โดยศาลพิจารณาพยานหลักฐานคู่ความทั้งสองที่เบิกความตรงกันแล้วมีคำพิพากษาให้ยกฟ้องจำเลยทั้ง 7 ในข้อหากบฎฯ ส่วนข้อหาเกี่ยวกับการชุมนุมข้อหาอื่นๆ เช่น ทำให้เกิดความวุ่นวายและทรัพย์สินเสียหาย ยุยงให้มีการหยุดงาน รวมถึงขัดขวางการเลือกตั้ง ศาลลงโทษจำคุกจำเลยแต่ละรายแตกต่างกัน
โดยพิพากษาลงโทษจำคุก นายนัสเซอร์ จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 6 เดือน
นายอุทัยและนายนิติธร จำเลยที่ 2-3 กระทำความผิดหลายข้อหา รวมจำคุกคนละ 5 ปี 9 เดือน และปรับคนละ 200,000 บาท
น.ส.จิตภัสร์ จำเลยที่ 4 จำคุกเป็นเวลา 9 เดือนและปรับ 40,000 บาท
นายพานสุวรรณ และนายประกอบกิจ จำเลยที่ 5-6 จำคุกรวม 4 ปี 9 เดือน ปรับ 180,000 บาท
ส่วนนายกิตติศักดิ์จำเลยที่ 7 ยกฟ้องทุกข้อหา เนื่องจากเป็นนักวิชาการ แสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ตามข้อมูลวิชาการ จึงไม่มีความผิด
อย่างไรก็ตาม จำเลยที่ 2-6 ไม่เคยจำคุกมาก่อน มีข้อมูลการกระทำความผิดของนักการเมือง ไม่ใช่การกระทำความผิดเพื่อตัวเอง มีเจตนารมณ์แสดงออกต่อสู้เพื่อหลักนิติรัฐ มีความกล้าหาญมอบตัวต่อสู้คดีไม่หลบหนี ให้รอการลงโทษคนละ 2 ปี ส่วนจำเลยที่ 1 เคยต้องโทษจำคุกมาก่อนจึงไม่เข้าเกณฑ์รอการลงโทษ