นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (กก.) กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงเริ่มเดินสายพูดคุยกับกลุ่มต่างๆ เพื่อหาเสียงสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง พ.ศ.... ที่พรรรคเสนอ โดยพยายามพูดคุยให้ได้มากที่สุด และยังมีอีกหลายกลุ่มที่เราตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะไปพูดคุยด้วย ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมข้อกังวลว่ามีอะไรบ้าง รวมทั้งการสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน เพราะอาจจะมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ฉบับนี้ หากได้เดินสายพูดคุยกับอีกหลายฝ่ายเพิ่มเติม รวมถึงข้อกังวลอื่นๆ อย่างครบถ้วนแล้วก็จะเปิดเผยถึงความคืบหน้ากันอีกครั้ง
สำหรับแนวทางการผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ฉบับนี้ พรรคคาดหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากพรรคซีกรัฐบาล แม้ว่าจะมีพรรคซีกรัฐบาลเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยก็ยังสามารถไปต่อได้ เพราะเป็นร่างกฎหมายที่เสนอโดยพรรคฝ่ายค้าน ไม่ได้เป็นกฎหมายที่ผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หากพรรคร่วมรัฐบาลมีความเห็นต่างกันก็สามารถลงมติที่แตกต่างกันได้ แต่หากพรรคฝ่ายรัฐบาลมีความเห็นที่แตกต่างในรายละเอียด เราก็อยากเห็นพรรคการเมืองเหล่านั้นเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ฉบับตัวเองมาประกบก็จะสามารถนำเนื้อหาเหล่านี้มาถกเถียงกันผ่านกระบวนการในรัฐสภา เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันได้
กรณีที่รัฐบาลโยนให้พรรคก้าวไกลไปพูดคุยกับวิปรัฐบาลนั้นคิดว่า วิปแต่ละฝ่ายก็คงมีการประสานกันอยู่แล้ว แต่ก่อนจะไปถึงการบรรจุวาระในช่วงเวลาใด เบื้องต้นคณะทำงานของเราได้พยายามพูดคุยกับตัวแทนทุกพรรคการเมือง เพื่อสร้างความเข้าใจในตัวกฎหมาย และไม่ได้เคลมผลงานด้วยการนิรโทษกรรมนักโทษทางการเมืองตามที่มีการกล่าวหา
"ผมคิดว่าไม่ว่าใครเสนอก็ตาม สมมติว่าในที่สุดแล้ว ทาง ครม.เสนอกฎหมายที่มีเนื้อหาสาระเป้าหมายเดียวกับของก้าวไกลเลย แล้วในที่สุดเป็นร่างของ ครม.ที่ผ่าน แต่ร่างของก้าวไกลไม่ผ่าน เราก็แฮปปี้ เราก็ยินดี สาระสำคัญไม่ได้อยู่ที่ใครเสนอ สาระสำคัญคือ สิ่งที่เราผลักดันได้สำเร็จตรงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่" นายพริษฐ์ กล่าว
โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จากพรรคการเมืองอื่น ต้องรอดูท่าทีรัฐบาลว่าจะเป็นอย่างไร เราในฐานะผู้เสนอก็ยินดีไปนำเสนอกับทางรัฐบาล และคิดว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นในการแก้ปัญหาทางการเมือง ซึ่งเราก็เห็นว่าข้อเสนอการเสนอนิรโทษกรรมไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นข้อเสนอที่หลายฝ่ายทางการเมืองเคยเสนอมาแล้วว่า เป็นกลไกสำคัญในการยุติปัญหาความขัดแย้งที่ผ่านมา ซึ่งตนยืนยันว่า ไม่ได้นิรโทษกรรมเจาะจงแค่นักโทษทางการเมืองที่โดนคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ 116 แต่หลักการคือ พยายามนิรโทษกรรมผู้ที่โดนคดีที่มีมูลเหตุจูงใจกับความขัดแย้งทางการเมือง เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการตามกลไกที่กฎหมายเสนอ เพื่อศึกษาว่าคดีไหนเข้าข่ายหรือไม่เข้าข่าย
ส่วนข้อกังวลว่าการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ อาจเป็นชนวนสร้างความขัดแย้งทางการเมืองครั้งใหม่นั้น ข้อแรกการใช้กลไกอย่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมทางการเมือง เป็นข้อเสนอที่หลายฝ่ายทางการเมืองเคยเสนอ เพื่อยุติความขัดแย้งทางการเมืองมาแล้ว ข้อสอง เรายืนยันว่ากฎหมายนิรโทษกรรมของเราเป็นความพยายามในการนิรโทษกรรม เพื่อให้ความเป็นธรรมกับกลุ่มการเมืองทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม ไม่คิดว่าจะเป็นการจุดชนวนสร้างความขัดแย้งทางการเมืองขึ้นอีก