นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้ลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นประชาชนครบทั้ง 4 ภาคของไทยแล้ว ครอบคลุมทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ ภาคเหนือ กลุ่มผู้ใช้แรงงานในพื้นที่ภาคกลาง กลุ่มประชาชนในพื้นที่ชนบทในพื้นที่ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ และกลุ่มพี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่ภาคใต้
จากการลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มตัวอย่าง 4 ภาคของไทย มีแนวคำถามในการรับฟังความคิดเห็นเบื้องต้น โดยมีผู้ตอบคำถามจากกลุ่มประชาชนตัวอย่างทั้งสิ้น 240 คน โดยคำตอบที่สอบถามจะเป็น
1.เห็นด้วยหรือไม่ที่จะให้มีการจัดทำรัฐธรมนูญฉบับใหม่ โดยเห็นด้วย 194 คน ไม่เห็นด้วย 46 คน
2.ในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เห็นด้วยหรือไม่ ที่จะคงเนื้อหาในหมวด 1 บททั่วไป และ หมวด 2 พระมหากษัตริย์ เห็นด้วย 167 คน ไม่เห็นด้วย 70 คน
3.หากมีการจัดทำประชามติเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะไปใช้สิทธิออกเสียง หรือไม่ ไป 230 คน ไม่ไป 5 คน เป็นต้น
นางรัดเกล้า กล่าวว่า ความคิดเห็นจากกลุ่มตัวอย่าง (focus group) ดังกล่าว ถือเป็นกลุ่มคนส่วนใหญ่ และมีส่วนรวมทางการเมืองอย่างมาก โดยคาดว่าจะมาออกเสียงประชามติถึงกว่า 75% จากกลุ่มตัวอย่างที่ไปดำเนินการสำรวจ โดยนายนิกร จำนง ประธานคณะอนุกรรมการฯ เห็นว่า หากสามารถเดินหน้าสร้างความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่รัฐบาลกำลังดำเนินการรับฟังความคิดเห็นอยู่ในขณะนี้ มีความเกี่ยวพันกับประชาชนทุกคน ก็จะมีส่วนช่วยให้มาออกเสียงประชามติได้อย่างมาก
โดยขั้นต่อไป เมื่อเปิดสมัยประชุมสภา คณะอนุกรรมการฯ จะรอสรุปการรับฟังความคิดเห็น ที่ได้ส่งแบบสอบถามขอความคิดเห็นไปยังสมาชิกวุฒิสภา 250 คน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 500 คน แล้วนำมาสรุป รวมความคิดเห็นจากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด ตลอดจนตัวแทนกลุ่มอาชีพ 15 กลุ่มที่ได้เชิญมารับฟังแล้วที่ทำเนียบรัฐบาลตลอดจนความเห็นของประชาชนคนหนุ่มสาวตลอดรวมทั้งพรรคก้าวไกลที่ไม่ส่งคนมาร่วมในคณะกรรมการ
หลังจากนั้น ประมาณปลายปี 2566 นี้จะมีการจัดประชุมคณะกรรมการฯ ชุดใหญ่ของคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นประธาน ซึ่งในการประชุมดังกล่าวจะเป็นการสรุปผลคณะอนุกรรมการฯ 2 ชุด คือ คณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 และคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางทำประชามติให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อสรุปความคิดเห็นเป็นรายงานผลการศึกษาเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อประกอบการตัดสินใจเพื่อดำเนินการต่อไป
"รัฐบาลมีความมุ่งมั่นตั้งใจเป็นอย่างมาก ในการรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงพื้นให้ครอบคลุมทั้ง 4 ภาคแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ควบคู่กับการเดินหน้าสร้างความเข้าใจ และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่า รัฐธรรมนูญมีความเกี่ยวพันกับประชาชนทุกคน รัฐบาลอยากให้ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วม เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่เป็นของคนไทยทุกคน" นางรัดเกล้า กล่าว