นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติการขอรับการจัดสรรงบฯ ปี 66 ไปพลางก่อน ในงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 750 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการเยียวยาแรงงานไทยจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ปีงบ 67 ต่อไป ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 66 และยังมีแนวโน้มยืดเยื้อต่อไป ส่งผลให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและสวัสดิภาพ และความปลอดภัยของคนไทย ซึ่งพำนักในพื้นที่ รวมถึงแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในอิสราเอลได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งบาดเจ็บ เสียชีวิต และถูกจับเป็นตัวประกัน รวมทั้งยังมีความกังวลถึงค่าจ้างที่ยังไม่ได้รับ และกังวลว่าจะไม่สามารถเดินทางกลับไปทำงานได้ภายหลังจากสถานการณ์สงบลง
ซึ่ง ครม.เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ได้มีมติมอบหมายให้ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดสิทธิประโยชน์และเงินช่วยเหลือชดเชยให้แก่แรงงานไทยที่กลับจากอิสราเอลให้เหมาะสมเป็นกรณีพิเศษ และต่อมา ครม.เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 66 ได้มีมติเร่งรัดการพิจารณากำหนดสิทธิประโยชน์และเงินช่วยเหลือชดเชยดังกล่าวให้แล้วเสร็จครบถ้วน รวมทั้งเร่งรัด กำกับ ติดตามการดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชยต่างๆ ให้ถึงมือแรงงานไทยถูกต้อง ทั่วถึงโดยด่วน
โดยวันนี้ กระทรวงแรงงาน จึงขอรับการจัดสรรงบฯ ปี 66 ไปพลางก่อน งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 750 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการเยียวยาแรงงานไทยจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ปีงบฯ 67 สรุปได้ดังนี้
กรอบวงเงินโครงการ : จำนวน 750 ล้านบาท (แรงงานไทยกลุ่มเป้าหมาย 15,000 คน) ได้รับเงินเยียวยา คนละ 50,000 บาท
กลุ่มเป้าหมาย 4 กลุ่ม ประกอบด้วย
1.แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในอิสราเอล และเดินทางกลับไทยหลังวันที่ 7 ต.ค. 66 จำนวน 9,475 คน วงเงิน 473.75 ล้านบาท
2.แรงงานไทยที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล จำนวน 39 คน วงเงิน 1.95 ล้านบาท
3.แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในอิสราเอลและเดินทางกลับไทยก่อนวันที่ 7 ต.ค. 66 โดยใช้ Re-entry Visa แต่ไม่สามารถเดินทางกลับไปทำงานที่อิสราเอลได้ เนื่องจากกรมการจัดหางานชะลอการเดินทางด้วยเหตุภัยสงครามในอิสราเอล จำนวน 960 คน วงเงิน 48.00 ล้านบาท
4.ประมาณการแรงงานไทยที่คาดว่าจะประสงค์เดินทางกลับไทย/เดินทางกลับไทยเพิ่มเติม รวมถึงแรงงานที่ถูกจับเป็นตัวประกัน จำนวน 4,526 คน วงเงิน 226.30 ล้านบาท
วิธีดำเนินการ :
1. สำนักงบประมาณ กระทรวงแรงงาน ทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค รับคำร้องขอรับเงินเยียวยาเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล
2. ตรวจสอบเอกสารข้อมูลตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงบประมาณ กระทรวงแรงงานกำหนด
3.ดำเนินการเบิกจ่ายเงินเยียวยาให้กับแรงงานไทยที่มีคุณสมบัติครบถ้วน โดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของแรงงานไทย
4.ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงาน
ระยะเวลาดำเนินการ : เดือน ธ.ค. 66 - ก.ย. 67 หรือจนกว่าจะดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาแล้วเสร็จ
การติดตามผล
1. รายงานผลการเบิกจ่ายเงินเยียวยาฯ เป็นประจำทุกวัน
2. กระทรวงแรงงานส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงาน