นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ฉบับพรรคก้าวไกลว่า ในส่วนหลักการของพรรคประชาธิปัตย์ ได้เคยย้ำจุดยืนหลายครั้งแล้วว่า หากเจตนารมณ์ของร่างกฎหมายมีผลกระทบต่อคดีความผิด มาตรา 112 พรรคไม่เห็นด้วย รวมถึงคดีทุจริตที่คดีเหล่านี้ หากมีการนิรโทษกรรม ย่อมมีผลกระทบต่อความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย เพราะต้นเหตุที่แท้จริงเกิดขึ้นจากพฤติกรรมของคน ไม่ใช่เป็นคดีทางการเมืองที่เกิดจากการชุมนุม
นอกจากนี้ ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ชัดของร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับดังกล่าว ซึ่งนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ผู้เป็นเจ้าของร่างกฎหมายนั้นด้วย ก็ยืนยันแล้วว่าการนิรโทษกรรมครั้งนี้ จะครอบคลุมถึงผู้ที่กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112ด้วย
"พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันหลักการนี้ชัดเจนตลอดมา ว่าไม่เห็นด้วย หากมีการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา จุดยืนของพรรคก็ไม่เห็นด้วย และชัดเจนว่ากระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ก็มีประชาชนที่ไม่เห็นด้วยถึง 71% ดังนั้นเสียงสะท้อนจากประชาชนเหล่านี้ ผู้แทนปวงชนชาวไทยที่ทำหน้าที่ในสภาฯ ก็มีความจำเป็นต้องนำมาประกอบในการพิจารณา" โฆษก ปชป. ระบุ
นายราเมศ กล่าวด้วยว่า การนิรโทษกรรม ต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ เพราะจะเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง และเมื่อผู้ที่ยกร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ยอมรับว่าให้รวมถึงผู้ที่มีคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112ด้วย ก็ชัดเจนว่าเขาเห็นถึงประโยชน์ที่พรรคและพวกของเขาจะได้รับอยู่แล้ว สุดท้ายประเด็นเหล่านี้ ก็จะกลายเป็นประเด็นความขัดแย้งอย่างไม่มีที่สิ้นสุด