นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ระบุว่า พร้อมปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจนครบวาระ 4 ปี และยืนยันว่าขณะนี้ สียงของพรรคร่วมรัฐบาลมีเสถียรภาพ และเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องดึงพรรคอื่นเข้ามาร่วมรัฐบาลเพิ่ม เพราะอาจทำให้บริหารจัดการได้ยากขึ้น
นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงฉายา "เซลล์แมนสแตนชิน" ว่า เข้าใจการทำหน้าที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบ ซึ่งถือเป็นสีสันประจำทุกปี ถามว่า เซลล์แมน ก็ทราบดีอยู่แล้วและประกาศตัวไปแล้ว ส่วน "สแตนชิน" เป็นคำควบกล้ำระหว่างไทยกับภาษาอังกฤษหรือไม่ ไม่ทราบ ขอให้สื่อช่วยอธิบายให้ฟังที
เมื่อตัวแทนสื่อทะเนียบชี้แจงว่าความหมายของ "แสตนชิน" คือ นายเศรษฐา เหมือนเป็นเงาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทำให้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวตอบว่า วันนี้เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ และทำงานอย่างเต็มที่ ตั้งใจทำงานจนครบวาระสี่ปีให้ได้ แต่ที่สำคัญ คือ ไม่ใช่อยู่เพียงแค่จะให้ครบสี่ปีแล้วชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนไม่ดีขึ้น
ส่วนที่มองว่าคำว่าสแตนชิน คือ จะคอยให้ครอบครัวไหนเข้ามานั้น อยู่ที่ประชาชนตัดสินมากกว่า ดังนั้นต้องรอดูการเลือกตั้งครั้งต่อไป ส่วนตัวเข้าใจและไม่ได้คิดอะไรมาก
ด้านฉายารัฐบาล "แกงส้ม ผลักรวม" นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ค่อยเข้าใจคำว่าผลักเท่าไหร่ แต่มองว่า "แกงส้ม" เป็นแกงที่รสชาติดี แต่รัฐบาลนี้ก็รวมกันหลายพรรคอยู่แล้ว รสชาติแกงส้มก็มีทั้งเปรี้ยวหวานเค็มเผ็ด ซึ่งรัฐมนตรีทุกคนก็ครบเครื่องพร้อมที่จะทำงานเพื่อประชาชน มองตรงนั้นมากกว่า
"แกงส้ม" ที่เป็นมุมมองว่า "แกล้ง" พรรคก้าวไกลนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ก่อนหน้านั้นพรรคเพื่อไทยก็ได้ให้การสนับสนุนพรรคก้าวไกลมาโดยตลอด แต่เมื่อพรรคก้าวไกลไม่สามารถรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้ และพรรคเพื่อไทยก็ไม่สามารถจะคอยได้ 9-10 เดือน ดังนั้น ก็ต้องทำหน้าที่กันไป เพราะประเทศชาติก็คอยไม่ได้ จึงไม่ใช่การแกล้งแน่นอน ยืนยันตามที่เคยพูดมาตลอดว่าพร้อมสนับสนุนหากพรรคก้าวไกลสามารถทำได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า การที่รัฐบาลจะอยู่ยาวครบ 4 ปีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับผลงานของรัฐบาล และความตั้งใจของรัฐมนตรีทุกคน ไม่ได้มองแบบแบ่งแยกว่ารัฐมนตรีคนใดมาจากพรรคใด แต่ดูผลงานของทุกคนเป็นหลัก แล้วเอาผลงานเป็นที่ตั้ง
สำหรับเสียงรัฐบาล 314 เสียงเพียงพอแล้วใช่หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน แต่วันนี้มีความสุขอยู่แล้วในจุดนี้ และเชื่อว่ารัฐมนตรีทุกคนจากทุกพรรคได้ทำงานเต็มที่ และตระหนักถึงการแก้ไขปัญหา พร้อมนำมาปรับปรุง เชื่อว่าจะเป็นแรงกระตุ้นให้กับรัฐมนตรีทุกคนทุกพรรคในการช่วยกันทำงาน
"ตอนนี้ยืนยันว่าไม่ได้คิดจะนำพรรคการเมืองอื่นมาร่วมรัฐบาลเพิ่มเติม เนื่องจาก 314 เสียง ณ วันนี้ถือว่าทำงานกันได้ดีอยู่ มีปัญหาก็พูดคุยกัน เอาผลงานเป็นที่ตั้ง"
กระแสข่าวที่มีการปรับคณะรัฐมนตรีด้วยการดึงพรรคประชาธิปัตย์มาเข้าร่วมรัฐบาลนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ทราบว่าใครเป็นคนให้ข่าว ย้ำว่า วันนี้แฮปปี้อยู่แล้ว มีความสุขใน 314 เสียง จาก 500 เสียง เพียงพอต่อการบริหารราชการแผ่นดิน และรัฐมนตรีทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ ต้องปรับกันไปแม้จะไม่เห็นด้วยกันทุกเรื่อง แต่จะมีการพูดคุยกันอย่างผู้ใหญ่
แม้ว่าการนำพรรคประชาธิปัตย์ 25 เสียงเข้ามาร่วมรัฐบาลจะทำให้ในแง่ของตัวเลขเสียงสนับสนุนดีขึ้น แต่การมาเกลี่ยกระทรวงกันใหม่ เป็นเรื่องที่ลำบาก ดังนั้น ขอให้ยึดคำที่พูดวันนี้ 314 เสียงพอแล้ว เต็มที่ และรัฐมนตรีทุกคนก็ทำงานอยู่แล้วผลงานก็เริ่มทยอยออกมาให้เห็นเช่นกัน
นายกรัฐมนตรี ยังอวยพรปีใหม่ให้กับประชาชนว่า ช่วงปีใหม่นี้ขอให้ทุกคนพักผ่อนกัน ขอให้เดินทางกลับไปญาติพี่น้องต่างจังหวัดอย่างปลอดภัยและระมัดระวังการเดินทาง ขับขี่อย่างปลอดภัย อย่าดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถ ขอให้ทุกท่านประสบผลสำเร็จดั่งที่คิดและมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง