นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 3-5 ม.ค. 2567 สภาฯ มีวาระสำคัญในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ใช้เวลา 3 วันที่รัฐบาลจะนำเสนอต่อรัฐสภา อยากให้ประชาชนให้ความสำคัญเพื่อทราบว่าแต่ละกระทรวงใช้งบประมาณเท่าใด เมื่อสภาฯ รับหลักการวาระแรกแล้วก็จะต้องตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อไปพิจารณาในวาระสอง ก่อนเสนอกลับมายังรัฐสภาในวาระที่สาม ไม่เกิน 105 วันทำการ หรืออาจใช้เวลาเพียง 90 วัน
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ขอชวนประชาชนให้ร่วมกันติดตามการอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ซึ่งจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 3-5 ม.ค. 2567 โดยพรรคก้าวไกลมีธีมในการอภิปรายว่า "วิกฤตแบบใด? ทำไมจัดงบแบบนี้" โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบและวิเคราะห์งบประมาณอย่างละเอียด รวมถึงจัดสรรผู้อภิปรายให้เหมาะสม พร้อมยืนยันว่าพรรคก้าวไกลจะทำงานหนักข้ามปีใหม่ เพื่อตรวจสอบงบประมาณให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด
นายณัฐพงษ์ย้ำว่า ในฐานะฝ่ายค้านเชิงรุก พรรคก้าวไกลไม่ได้มุ่งตรวจสอบหรือวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องนำเสนอข้อเสนอด้วยว่า หากได้เป็นรัฐบาล พรรคจะจัดทำงบประมาณให้สอดคล้องกับนโยบายที่ให้สัญญากับประชาชนไว้อย่างไร โดยในช่วงการอภิปรายงบประมาณปี 2568 ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 พรรคก้าวไกลจะนำเสนอตัวอย่าง "ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณเงา" เพื่อให้สภาฯ และประชาชนร่วมกันพิจารณาด้วย
ในด้านข้อสังเกตต่องบประมาณปี 2567 จากการติดตามการจัดทำงบประมาณผ่านคณะกรรมาธิการฯ มากว่า 3 เดือน รวมถึงการอ่านเอกสารที่แปลงออกมาเป็นตาราง Excel ในเบื้องต้น ณัฐพงษ์ตั้งข้อสังเกตว่า ยังไม่พบตัวอย่างนโยบายของรัฐบาลที่ถูกบรรจุไว้ในเอกสารงบประมาณอย่างชัดเจนมากนัก เช่น นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งนโยบายหลักของรัฐบาล แต่กลับไม่ปรากฏการจัดสรรงบประมาณที่ชัดเจนในเอกสาร
นอกจากนี้ ประเด็นที่น่ากังวลอย่างยิ่งคือ งบประมาณปี 2567 เป็นปีที่สัดส่วนรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อรายได้สุทธิของรัฐบาลลดลง โดยในช่วงรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (2562-2566) มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 29.8% ซึ่งไม่เคยลดลง ส่วนมากจะเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่งบประมาณปี 2567 เป็นปีที่สัดส่วนนี้ลดลงเหลือเพียง 29.1% เทียบเท่ากับงบประมาณปี 2560 จึงเป็นสัญญาณที่น่ากังวลต่อการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ทั้งที่เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง