นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน แถลงมติวิปฝ่ายค้าน ว่า มีมติไม่เห็นชอบกับร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 เนื่องจากรัฐบาลจัดทำงบประมาณไม่แตกต่างจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมาอย่างมีนัยสำคัญ มีการตั้งงบประมาณไม่ได้สัดส่วนกับปัญหา และพบการสอดไส้งบประมาณ จัดทำงบประมาณไม่ตรงปก ไม่ตรงแผนงาน งบประมาณที่ควรบรรจุไว้กลับไม่มี งบประมาณที่ไม่ควรมีกลับมี การจัดทำงบประมาณครั้งนี้ยังจัดสรรงบไว้ไม่เพียงพอในรายการที่จำเป็น และประมาณการรายได้เกินจริง มุ่งแต่จะใช้กลไกนอกงบประมาณโดยไม่คำนึงภาระการคลังในอนาคต
นายชัยธวัช กล่าวว่า ตลอด 3 วันที่ผ่านมา สส.พรรคร่วมฝ่ายค้านได้อภิปราย วิพากษ์วิจารณ์ ตั้งคำถามและให้ข้อเสนอแนะกับรัฐบาลมากมาย แต่สิ่งที่รัฐมนตรีชี้แจงกลับเป็นคำตอบที่ไม่ตรงกับคำถาม บางคำถามก็ไม่มีคำตอบจากรัฐมนตรี
"บางคำชี้แจงก็แสดงให้เห็นการขาดวุฒิภาวะ หรือให้ข้อมูลที่บิดเบือน สุดท้ายก็เลือกตอบแต่คำถามที่ชงกันเอง กินกันเองในพรรคเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้น รัฐมนตรีบางกระทรวงไม่แม้แต่ให้เกียรติเงินภาษีประชาชน ด้วยการลุกขึ้นมาชี้แจงให้คำตอบแก่สภาผู้แทนเสียด้วยซ้ำ" นายชัยธวัช กล่าว
ทั้งนี้ นายชัยธวัช เชื่อว่า การลงคะแนนเสียงของพรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นเอกภาพแน่นอน อย่างไรก็ตาม ด้วยคะแนนเสียงของฝ่ายค้าน มีแนวโน้มร่างงบประมาณจะผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมสภา แต่การลงมติของพรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นการแสดงออกจุดยืนและท่าทีต่อพ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้ และยอมรับว่า การอภิปรายครั้งนี้อาจจะไม่ดุเดือด เพราะการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณเน้นการให้ข้อมูล ไว้คอยดูการอภิปรายที่ดุเดือดมากกว่านี้ในอนาคต
นายชัยธวัช กล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.งบประมาณแบบนี้เป็นฉบับสุดท้าย และกลางปีนี้ จะมีร่างงบประมาณปี 68 เข้าสู่ที่ประชุมสภาอีกครั้ง จึงหวังว่า รัฐบาลจะไม่มีข้ออ้างใดๆ ทั้งสิ้น ที่จะจัดทำนโยบายออกมาและไม่สะท้อนเป้าหมายทางนโยบายแบบนี้อีก
นอกจากนี้ นายชัยธวัช กล่าวว่า จะมีการนัดหมายประชุมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในกลางสัปดาห์หน้า เพื่อวางแผนงานและเป้าหมายร่วมกัน เพื่อความเป็นเอกภาพและทำงานตามความคาดหวังของประชาชนให้ดีที่สุด
ด้านนายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า งบประมาณ 67 ไม่สามารถแก้ปัญหาวิกฤติประเทศได้ และไม่มีจัดเตรียมรับมือวิกฤติที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น ปรากฏการณ์เอลนีโญ หรือการแก้ปัญหายาเสพติด ซึ่งเมื่อวันที่ 2 ม.ค. ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ก็มีมติไม่รับหลักการร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 67 ตั้งแต่วันนั้นแล้ว และเชื่อว่า สส.ทั้ง 25 คนจะไปในทิศทางเดียวกัน
ขณะที่ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า งบประมาณที่เสนอมาได้ศึกษาในรายละเอียดแล้ว งบลงทุน 7 แสนกว่าล้านบาทได้รับการจัดสรรเพียง 3-4 กระทรวง ประกอบด้วย กระทรวงคมนาคม กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถือเป็นประมาณ 80% ของงบลงทุนทั้งหมด แต่เป็นงบผูกพันมาจากรัฐบาลชุดที่แล้วเป็นหลัก และมีเม็ดเงินลงทุนที่เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ประมาณ 2 แสนกว่าล้านบาทเท่านั้น ซึ่งเห็นว่า รัฐบาลคงไม่สามารถนำนโยบายของตนเองมาปฏิบัติได้จริง