รัฐบาลไม่เห็นด้วยที่จะถ่ายทอดสดการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เพราะบางเรื่องยังไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะ และจะทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ เช่น การเปิดประมูลโครงการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งในหลักการ จะมีการชี้แจงข้อมูลอย่างเปิดเผยอยู่แล้ว เรื่องนี้ต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง อะไรที่สามารถเปิดเผยได้ก็ค่อยว่ากัน
"โดยทั่วไป การจัดสรรงบประมาณต้องทำให้ชัดเจนก่อน หากข้างในยังทำอะไรไม่เสร็จ แล้วมีคนมานั่งเฝ้าดู แล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์อะไรก็นำไปใช้ ผมคิดว่าตรงนั้นคงไม่เหมาะสมเท่าไร" นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าว
ส่วนการประชุม กมธ.งบประมาณฯ นัดแรก เพื่อกำหนดกรอบการทำงาน และสัดส่วนในตำแหน่งกรรมาธิการฯ ไม่น่าจะมีปัญหา เมื่อผ่านวาระแรกแล้วถือว่าสภาฯ ได้รับรองขั้นต้น จากนี้ไปเป็นเรื่องของทุกภาคส่วนต้องช่วยกันทำให้งบประมาณปี 67 สามารถบริหารได้โดยยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง รวมถึงแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้
"ทุกคนก็รู้อยู่กันอยู่แล้ว ว่าเราผ่านวิกฤตกันมา เราต้องการที่จะแก้ไข เชื่อว่าทุกคนจะพยายามใช้ความรู้ที่มีอยู่ จัดสรรงบประมาณให้เป็นไปตามความเหมาะสม และนโยบายของรัฐบาลที่จะดำเนินการ" นายภูมิธรรม กล่าว
ขณะที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะ กมธ.งบประมาณฯ กล่าวว่า สส.หลายคนมีข้อกังวลในเรื่องการตั้งงบประมาณไว้ไม่เพียงพอในหลายกรรมหลายวาระ ซึ่งรวมแล้วมีจำนวนค่อนข้างมากที่จำเป็นจะต้องใช้งบกลางในการดำเนินโครงการ ซึ่งงบกลางอาจจะตั้งไว้อย่างไม่เพียงพอที่จะไปสนับสนุนโครงการต่างๆ เหล่านั้นได้ ไม่ว่าจะเป็น งบบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เงินเดือนข้าราชการที่จะต้องเพิ่มขึ้นในปีนี้อีก 10% เรื่องการชดเชยผู้ประกอบการรถ EV ต่างๆ ซึ่งตรงนี้จะเป็นปัญหาในท้ายที่สุดว่าเราจะเอางบกลางมากขนาดนั้นมาจากไหน ระดับแสนล้านบาท
"ดิฉันจะเสนอให้ถ่ายทอดสดการประชุม กมธ.งบฯ คงจะต้องลองสู้กันอีกสักครั้ง หลังจากสู้มาทุกปี แต่ไม่เคยสำเร็จสักที เพราะตรงนี้ จะทำให้ประชาชนสามารถติดตามได้ในเชิงลึก ว่าในกรรมาธิการคุยอะไรกัน และมีผลต่อชีวิตพวกเขาอย่างไรบ้าง คงต้องดูว่าข้อเสนอต่างๆ ของการใช้งบประมาณที่ กมธ.แต่ละท่าน หรือจากคำชี้แจงของหน่วยงานราชการต่างๆ จะไปในทิศทางใด เราคงต้องสู้ในทางนี้อีกครั้ง" น.ส.ศิริกัญญา กล่าว