น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 กล่าวว่า ฝ่ายค้านคงไม่โหวตรับร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เนื่องจากยังไม่เห็นหน้าตาของความจำเป็นเร่งด่วนวิกฤตเศรษฐกิจที่ต้องการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง โดยที่งบประมาณไม่สามารถตั้งไว้ได้ทัน
ส่วนการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตจะทันในเดือนพ.ค. หรือไม่ คงต้องช่วยกันลุ้น ซึ่งวันนี้ (11 ม.ค.) ยังไม่มีการนัดประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่เลยและยังต้องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบก่อนที่จะเสนอเข้ามายังสภาฯ ซึ่งประเมินว่าคงจะผ่านสภาฯ เนื่องจากรัฐบาลมีเสียงข้างมาก แต่ยังมีด่าน สว. ที่อาจจะล่าช้าได้อีก ถ้าไม่รับหลักการก็ต้องตีกลับมาที่สภาผู้แทนราษฎรว่าจะเห็นชอบร่างฯ นี้หรือไม่ ยังไม่รวมอีกหลายหน่วยงานที่จะไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือนักร้องเจ้าประจำต่างๆ ดังนั้น ต้องช่วยกันลุ้นว่าจะทันเดือนพ.ค. หรือไม่
ด้านนายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า หากรัฐบาลออกพ.ร.บ.กู้เงินดังกล่าวออกมา และเลือกใช้วิธีการกู้โดยการออกพันธบัตร ตนมองว่าจะเป็นการซ้ำเดิมตลาดหุ้นกู้ที่ปัจจุบันมีปัญหาอยู่แล้ว ให้มีปัญหามากยิ่งขึ้น
นายจุลพงศ์ กล่าวต่อว่า ปัญหาแรก คือการแข่งขัน ด้านดอกเบี้ยตราสารหนี้จะสูงขึ้น โดยสภาพการแข่งขันของตลาดทุนแล้ว หุ้นกู้ที่จะออกมาขายกับประชาชน จะต้องเสนอให้ดอกเบี้ยสูงกว่าดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลประมาณ 2-3 เท่าเพื่อเป็นแรงจูงใจแก่นักลงทุนให้มาซื้อหุ้นกู้
ส่วนปัญหาที่สองที่จะเกิดขึ้น คือการแก้ปัญหาการชำระหนี้หุ้นกู้ที่ผิดนัดแล้วโดยการขอขยายระยะเวลากำหนดชำระหนี้หุ้นกู้ หรือ roll over ออกไป ซึ่งบริษัทหลายบริษัทที่ออกหุ้นกู้ในปัจจุบันพยายามเจรจากับผู้ถือหุ้นกู้จะทำได้ยากยิ่งขึ้นเพราะนักลงทุนย่อมเร่งรัดเพื่อได้รับชำระหุ้นกู้เพื่อนำเงินมาซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่มีความมั่นคงมากกว่า
ดังนั้น จึงขอเสนอให้รัฐบาลระมัดระวังในการหาแหล่งเงินกู้ตามพ.ร.บ.ที่จะออกมาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากใช้วิธีการออกพันธบัตร จะไปซ้ำเติมปัญหาหุ้นกู้ให้เลวร้ายลงกว่านี้ และจะกระทบความเชื่อถือของตลาดทุนของประเทศไทย