นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก (8 ต่อ 1) วินิจฉัยสมาชิกภาพ สส. ของนายพิธา ไม่สิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) จากการถือหุ้นบมจ. ไอทีวี (ITV) โดยระบุว่า รู้สึกเฉยๆ แต่จะเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชนต่อไป
ภารกิจแรกในศุกร์ที่ 26 ม.ค.นี้ จะแถลงแผนงานประจำปีของพรรคก้าวไกล MFP's Strategic Roadmap ตามที่ได้รับมอบหมายจากนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค และจะลงพื้นที่ในสัปดาห์นี้
ส่วนจะกลับเข้าสภาฯ เมื่อไรนั้น ขอให้วิปได้หารือกับประธานสภาฯ ก่อน เมื่อเข้าสภาฯ จะทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรให้เต็มที่สมกับที่รอมา และปัจจุบันยังเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ในกรณีที่รัฐบาลชุดนี้เจออุบัติเหตุทางการเมืองก็จะสามารถเข้ารับการเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีได้
"จะทำหน้าที่ สส.ให้สมกับที่รอมา วันนี้ในใจคิดแต่เรื่องการทำงานและรอเวลาว่าจะได้กลับเข้าสภาเมื่อไหร่ การทำงานการเมืองในฐานะฝ่ายค้านจะต้องเอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง จะรีบกลับไปเสริมทัพทำงานร่วมกับสมาชิกพรรคก้าวไกล ถ้าสภาไฟเขียวเมื่อไหร่ก็จะกลับไปวันนั้นเลย" นายพิธา กล่าว
นายพิธา กล่าวว่า ไม่มีแนวคิดจะฟ้องกลับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในคดี
ส่วนการวินิจฉัยคดีมาตรา 112 ในสัปดาห์หน้า ก็ยังมีความหวังอยู่เสมอ
นายพิธา ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า "ขอขอบคุณทุกกำลังใจครับ"
นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงคดีมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลว่า ไม่ได้กังวลใจอะไร และหวังว่าจะเป็นข่าวดีเหมือนกับคดีนี้
ส่วนการเลือกหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนใหม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า จะเกิดขึ้นช่วงปลายเดือนเมษายน เพราะจะเป็นการประชุมใหญ่สามัญประจำปีอยู่แล้ว จะมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ช่วงนั้น พร้อมระบุว่า "ไม่ได้ยึดติดตำแหน่ง อยู่ตรงไหนก็ได้"