นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า การที่วิปรัฐบาลเสนอเลื่อนญัตติตั้งคณะกรรมธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาร่างกฎหมายนิรโทษกรรมนั้น เป็นสิทธิของแต่ละพรรคการเมืองที่จะเลือกใช้วิธีการผลักดันร่างกฎหมายที่แตกต่างกัน ซึ่งหากมีการตั้งคณะกรรมการวิสามัญขึ้นมาศึกษา พรรคก้าวไกล จะเสนอร่างกฏหมายพิจารณาควบคู่กัน โดยหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากพรรคการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน
ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลมีร่างกฎหมายพร้อมแล้ว รวมถึงร่างกฎหมายของพรรครวมไทยสร้างชาติ ร่างกฎหมายของพรรคครูไทยเพื่อประชาชน ซึ่งหากจะพิจารณาร่างของพรรคก้าวไกล ก็มีความพร้อมในทันที แต่ถ้าที่ประชุมสภาฯ จะใช้วิธีการตั้งคณะกรรมการวิสามัญขึ้นมาก่อน พรรคก้าวไกลก็จะใช้ร่างกฎหมายฉบับของพรรคเข้าไปพูดคุยในกรรมาธิการวิสามัญ
"เราจะพยายามใช้พื้นที่อย่างเต็มที่ในการนำเสนอหลักคิด และเหตุผลร่างของเรา และหวังว่าร่างของเรา จะถูกพิจารณาในวาระแรก และได้รับความเห็นชอบจากสภาฯ" นายพริษฐ์กล่าว
ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าการนิรโทษ มาตรา 112 จะเป็นประเด็นอ่อนไหว นายพริษฐ์ กล่าวว่า ในหลักการร่างของพรรคก้าวไกล จะนิรโทษกรรมคดีที่มีมูลเหตุจูงใจ แสดงออกทางการเมือง ซึ่งในร่างของพรรคก้าวไกล ไม่ได้ระบุฐานความผิดเป็นการเฉพาะ แต่จะมีการตั้งคณะกรรมการจากหลายฝ่ายขึ้นมาพิจารณาเป็นกรณีไป
สำหรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในคดีมาตรา 112 ในวันพรุ่งนี้ (31 ม.ค.) นั้น โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า การเสนอแก้มาตรา 112 จะนำมาประกอบการพิจารณา เพื่อผลักดันเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมให้เกิดความสำเร็จ ซึ่งร่างกฎหมายนิรโทษกรรมที่เสนอโดยพรรคก้าวไกล ได้บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว
อย่างไรก็ดี วันพรุ่งนี้ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล จะไม่เดินทางไปรับฟังคำวินิจฉัยที่ศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากต้องปฎิบัติหน้าที่ที่สภาผู้แทนราษฎร