มาตามนัด! "เรืองไกร" ยื่นร้องกกต.ยุบพรรคก้าวไกล-ตัดสิทธิสมัครเลือกตั้ง

ข่าวการเมือง Thursday February 1, 2024 10:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางเข้ายื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พรรคก้าวไกลกระทำการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 วรรคหนึ่ง (1) (2) หรือไม่ และเข้าข่ายต้องเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารหรือไม่ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า การกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล เป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

"เรื่องนี้มีเอกสารหลักฐานครบถ้วนอยู่แล้วขาดแต่เพียงคำร้อง เรื่องนี้ไม่น่ายาก" นายเรืองไกร กล่าว

กรณีดังกล่าวตนเคยยื่นเรื่องทักท้วงต่อ กกต.ไปแล้วเมื่อปี 64 และปี 66 อีกทั้งเคยยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบ สส.พรรคก้าวไกลทั้ง 44 คนที่เสนอแก้ไขมาตรา 112 ว่าเป็นการใช้สิทธิโดยชอบหรือไม่ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาแล้วก็เป็นอำนาจและหน้าที่ของ กกต.ที่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย

"ผมดำเนินการไปตามข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ไม่ได้ใช้เรื่องของความรู้สึก" นายเรืองไกร กล่าว

ส่วนกรณีที่แกนนำพรรคเพื่อไทย เช่น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง หรือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค เคยหาเสียงในเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ตนก็พยายามรวมรวมหลักฐานอยู่ ไม่ได้ปล่อยทิ้งไป แต่หลักฐานที่มีอยู่ยังมีน้ำหนักไม่เพียงพอ ขณะที่มีรายงานว่า นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความที่ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยในเรื่องนี้ จะเดินทางมายื่นคำร้องต่อ กกต.ด้วยเช่นกัน

*"เต้ มงคลกิตติ์" ยื่นหนังสือ ผบ.ตร.พิจารณาเอาผิด "พิธา-ก้าวไกล"

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อขอให้นำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมาเป็นองค์ประกอบและวินิจฉัย พฤติกรรมและพฤติการณ์ของนายพิธา และพรรคก้าวไกล ว่าการกระทำดังกล่าวซึ่งศาลฯ ตัดสินชัดเจนว่าเป็นการล้มล้างระบอบการปกครองฯ จะเข้าข่ายความผิดฐานตามประมวลกฎหมายอาญาม.113(1) หรือข้อหากบฎ หรือไม่ หาก ผบ.ตร.ไม่ดำเนินการก็จะเข้าข่ายความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ม.157 เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร และเห็นว่าสิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยเป็นการระงับยับยั้งเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นายมงคลกิตติ์ ยังมั่นใจว่าหากมีการยื่นให้ยุบพรรคก้าวไกลทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะรับเรื่องและส่งศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย และพรรคก้าวไกลจะต้องถูกยุบ 100% รวมถึงการตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคตั้งแต่ชุดที่ก่อตั้งพรรคก้าวไกลมาจนถึงปัจุจุปัน ส่วนเรื่องของจริยธรรมฯตัดสิทธิ์การเมืองตลอดชีวิต อาจจะโดนแค่คนที่เสนอให้มีการแก้ ม.112 พร้อมมองว่าการยุบพรรคก้าวไกล ไม่ได้ทำให้พรรคโตขึ้นได้สส.ในสภามากขึ้น เพราะที่ผ่านมามีพรรคการเมืองที่ถูกยุบแต่ก็เล็กลงเรื่อยๆย้ำว่าไม่มีพรรคการเมืองไหนที่ถูกยุบแล้วจะโตขึ้นมีแต่เล็กลงเรื่อยๆ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ