ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยว่าการใช้นโยบายหาเสียงพรรคก้าวไกล ในการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง และสั่งให้พรรคฯ ยุติการกระทำดังกล่าว ซึ่งต่อมานายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้พิจารณายุบพรรค และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลนั้น
ล่าสุด นโยบายแก้ไข มาตรา 112 ที่เคยปรากฎอยู่บนเว็บไซต์ของพรรคก้าวไกล ได้ถูกลบออกไปแล้ว และไม่ปรากฎข้อความใดที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ในเว็บไซต์ด้วยเช่นกัน
นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ได้ถูกลบออกไปจากเว็บไซต์ของพรรคว่า เนื่องจากฝ่ายกฎหมายเห็นว่าเป็นประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญหยิบขึ้นมาอยู่ในคำวินิจฉัยด้วย ว่าการที่ยังมีนโยบายเรื่องนี้อยู่ในเว็บไซต์ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่นำไปสู่บทสรุปว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง ซึ่งความจริงพรรคไม่ได้คิดว่าจะเป็นประเด็นสาระสำคัญ
ส่วนที่ สส. หรือสมาชิกพรรค ยังแสดงความเห็นเกี่ยวกับการแก้ไข มาตรา 112 ตามโซเชียลมีเดียนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า คำวินิจฉัยไม่ได้บอก ว่า สส.จะเสนอแก้ไขปรับปรุง มาตรา 112 ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น สส.พรรคไหน ซึ่งตนได้ย้ำในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ไปแล้วว่า มาตรา 112 ยังเป็นปัญหา เพราะฉะนั้นการที่สมาชิกพรรคบางส่วนยังมีความเห็นว่าควรแก้ไขมาตรานี้ ก็ยังสามารถทำได้ เพียงแต่ต้องดูว่าอะไรคือการเสนอกฎหมายโดยชอบ ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
ส่วนการนัดประชุม สส.พรรคก้าวไกล ในวันนี้ เพราะเมื่อวานหลังจากฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ยังไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกันจริงจังกับ สส.ของพรรค เพราะต้องรีบแถลงขาวต่อสื่อมวลชน
"ดังนั้น ในวันนี้ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันในช่วงสุดสัปดาห์ จึงถือโอกาสพูดคุยกันในวันนี้ เชื่อว่า สส.คงมีความเห็น และข้อเสนอให้ได้แลกเปลี่ยนกัน" นายชัยธวัช กล่าว
สำหรับข้อกังวลหากถูกร้องในประเด็นด้านจริยธรรม ซึ่งอาจมีโทษถึงการตัดสิทธิทางการเมืองได้นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องจริยธรรมเป็นคนละเรื่องกับเรื่องถูกร้องยุบพรรค เป็นคนละกระบวนการ และน่าจะใช้เวลามากกว่า ไม่ได้บอกว่าหากเป็นคดีจริยธรรม แล้วถูกตัดสินว่าผิด จะต้องถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต เพราะขึ้นอยู่กับศาล ซึ่งส่วนนี้ฝ่ายกฎหมายของพรรคก็ได้เตรียมต่อสู้ไว้อยู่แล้ว ต้องรอดูคำวินิจฉัยฉบับเต็ม เพราะยังมีรายละเอียดทางกฎหมายอยู่
"ไม่ว่าจะโดนร้องเรื่องอะไร ตอนนี้ สิ่งที่เรารอ คือรอดูคำวินิจฉัยตัวเต็ม เพราะจะมีความสำคัญในทางข้อกฎหมาย" นายชัยธวัช กล่าว
ส่วนความกังวลเกี่ยวกับการยุบพรรคนั้น นายชัยธวัช ยอมรับว่า มีความเสี่ยง อย่างน้อยวันนี้ก็มีคนไปร้องแล้ว ก็ต้องเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด
ส่วนที่มีนักวิชาการให้ความเห็นว่า พรรคก้าวไกลควรยื่นให้องค์กรระหว่างประเทศ ตรวจสอบคำวินิจฉัยที่ละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนสากลนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยกัน เพราะกลไกที่จะสามารถตรวจสอบการใช้อำนาจของตุลาการในประเทศไทยยังมีข้อจำกัดอยู่
"ถ้าเราอยู่ในสหภาพยุโรป แล้วมีคำวินิจฉัยเช่นนี้ จะไม่สามารถบังคับใช้ได้แน่นอน เพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของพลเมือง ไม่สามารถห้ามเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นได้อย่างแน่นอน แต่ว่านี่ เป็นประเทศไทย" หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุ
นายชัยธวัช กล่าวถึงกรณีการนัดรับประทานอาหารค่ำของพรรคร่วมฝ่ายค้านในวันนี้ว่า เป็นนัดรับประทานอาหารปกติ ไม่ได้มีวาระอะไร เป็นการกระชับความสัมพันธ์เพราะส่วนใหญ่หลายพรรคไม่เคยทำงานร่วมกันใกล้ชิด
ส่วนจะคุยเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยหรือไม่ นายชัยธวัช ระบุว่า ก็คุยได้ทุกเรื่อง เนื่องจากไม่ได้มีวาระประชุมอย่างเป็นทางการ