แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ร่วมกับเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน รวมตัวกันบริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ ถ.ราชดำเนินนอก เพื่อเดินขบวนมายื่น 7,301 รายชื่อ ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล โดยมีการแต่งกายเป็นชุดคล้ายแฮรี่พอตเตอร์ ซึ่งเป็นชุดที่นายอานนท์ นำภา ผู้ต้องหาคดี 112 และเป็นนักกิจกรรมทางการเมือง เคยใส่ชุดดังกล่าวเคลื่อนไหวทางการเมือง
เมื่อเดินขบวนมาถึงแยกมิสกวัน ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรั้วเหล็กมาปิดกั้นถนน ตั้งแต่แยกมิสกวันถึงแยกพาณิชยการ เชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตให้กลุ่มแอมเนสตี้ฯ เข้าไปยื่นหนังสือที่บริเวณดังกล่าว เหตุเกรงจะเกิดการเผชิญหน้ากับกลุ่มกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) ที่ปักหลักชุมนุมค้างคืน บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ ขณะที่กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) คัดค้านข้อเรียกร้องของแอมเนสตี้ฯ
ทางตัวแทนแอมเนสตี้ฯ จึงได้ยื่นหนังสือเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัว และยกเลิกข้อกล่าวหาทั้งหมดกับนายอานนท์ รวมถึงนักกิจกรรมคนอื่นๆ ผ่านนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ที่แยกมิสกวันแทน
นอกจากนี้ ทางแอมเนสตี้ฯ ยังได้แถลงการณ์ข้อเรียกร้องถึงรัฐบาลไทย 3 ข้อ คือ
1.ปล่อยตัวนายอานนท์ โดยทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข รวมทั้งให้ยกเลิกคำตัดสินว่า มีความผิด และการดำเนินคดีใดๆ ต่อนายอานนท์ และบุคคลอื่นๆ รวมทั้งเด็ก ซึ่งถูกดำเนินคดีเพียงเพราะการใช้สิทธิมนุษยชนของตน
2.ระหว่างที่ยังไม่ยกเลิกคำตัดสินว่ามีความผิดและการดำเนินคดี ต้องอนุญาตให้นายอานนท์ และนักกิจกรรมคนอื่นมีสิทธิได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว และประกันว่าเงื่อนไขการประกันตัว จะไม่เป็นการจำกัดโดยพลการต่อการใช้สิทธิของตนโดยสงบ
3.แก้ไข เพิ่มเติม หรือยกเลิกกฎหมายที่ถูกใช้เพื่อจำกัดสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออก และการชุมนุมโดยสงบ เพื่อประกันว่าประเทศไทยจะปฏิบัติตามพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศของตน
ด้านนายสมคิด กล่าวว่า จะนำหนังสือดังกล่าวส่งให้นายกรัฐมนตรี และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เพื่อพิจารณา รวมถึงจะส่งไปยังคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร ที่จะมีการประชุมนัดแรกวันที่ 8 ก.พ.นี้ เพื่อพิจารณาตามข้อเรียกร้องดังกล่าวต่อไป