นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล ยืนยันว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังคงเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้ แม้ศาลมีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 4 เดือน แต่ให้รอลงอาญา 2 ปีในคดีแฟลชม็อบ โดยโฆษกพรรคก้าวไกล ได้ชี้แจงสถานะทางการเมืองของนายพิธา ใน 3 ประเด็น ดังนี้
1. เมื่อยื่นอุทธรณ์ นายพิธา จะยังไม่หลุดสถานะความเป็น สส. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98
2. ในกระบวนการอุทธรณ์ สามารถนำไปสู่การพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้ ก็จะทำให้ไม่มีผลกระทบต่อสถานะทางการเมือง ในกรณีที่หากชนะคดีในชั้นอุทธรณ์
3. หากคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นมีโทษจำคุก ซึ่งมีการวิเคราะห์ว่าจะนำไปสู่การตัดสิทธิ์ทางการเมือง หรือการตัดสิทธิ์การเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีในอนาคต จะไม่เป็นเช่นนั้น โดยรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (7) ระบุว่า รัฐมนตรีไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาให้จำคุก แม้คดีนั้นจะยังไม่ถึงที่สุด หรือมีการรอการลงโทษ เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท ความผิดลหุโทษ หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท
บทบัญญัตินี้ ไม่ได้หมายถึงคนที่ "เคย"กระทำ และหยิบยกมาตรา 98 (6) และ (9) ที่หมายถึงหากขณะนั้นต้องคำพิพากษาอยู่ก็ไม่สามารถรับตำแหน่งได้ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 ไม่ได้ตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต หากนายพิธา พ้นโทษ ก็ยังมีคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรี และแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีได้ตามกฎหมาย