น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อวาน (15 ก.พ.) เป็นไปตามที่ตนได้เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าคงไม่มีความคืบหน้า เพราะมีสัญญาณมาจากช่วงประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าหนังสือรายงานความเห็นของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณา ดังนั้นทุกอย่างคงจะล่าช้าออกไปอีก
"ขณะนี้พรรคก้าวไกล ก็ได้แต่ภาวนาว่าจะได้ทำ หรือไม่ได้ทำ ใจอยากให้ตัดสินใจเร่งด่วน เพราะยิ่งยื้อออกไป จะกลายเป็น ต้นทุนค่าเสียโอกาส ถ้าเราใช้เวลาช่วงนี้ ทำมาตรการอะไรบางอย่างเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัว ตามที่รัฐบาลเคยกังวลว่าอยู่ในวิกฤตเศรษฐกิจ แต่การกระทำ กลับย้อนแย้งกันว่าไม่ยอมทำอะไรสักที เราก็รอจนกว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะผ่านเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีมาตรการอื่นๆ ออกมา" รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว
พร้อมมองว่า จากการแถลงของนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ เหมือนย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นที่ศูนย์ เหมือนนับหนึ่งใหม่ กลายเป็นว่าตอนนี้ไม่มีความแน่ชัดว่าจะออกเป็น ร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินหรือไม่ หรือจะเปลี่ยนไปใช้แหล่งเงินอื่นแทน ส่วนกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับสิทธิก็ยังไม่มีความชัดเจน เพราะพอมีความเห็นหรือข้อเสนอแนะเข้ามา
"ถ้าเป็นแบบนี้ ก็เป็นการพายเรือในอ่าง ไม่จบเสียที เราอยากเห็นความหนักแน่นเด็ดขาด ว่าสรุปจะเอาอย่างไร บางทีมันต้องมีการฟันธงทุบโต๊ะ แม้ความเห็นหลายเรื่องจะรับฟังได้ แต่ถ้านโยบายเราคิดมาดีแล้วจริงๆ ก็จะต้องมีคำตอบกับทุกสิ่ง ว่าทำไมถึงต้องทำแบบนี้ ทำไมถึงต้องมีการกู้ ทำไมถึงต้องให้กลุ่มนี้ ทำไมถึงเม็ดเงินจะเป็นจำนวนเท่านี้ เราต้องตอบได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะมีความเห็นใดเราก็จะสามารถที่จะรับฟังได้ แต่ก็จะสามารถตอบได้ทุกคำถามเหมือนกัน แต่ตอนนี้กลายเป็นว่า ใครพูดอย่างหนึ่ง รัฐบาลก็กลับมาเปลี่ยนแปลง กลับมาปรับปรุงตลอดเวลา" น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า เข้าใจดีว่าข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช. สำหรับหลายคนเห็นเป็นเรื่องใหญ่ แต่ขอให้กำลังใจรัฐบาลว่ามันเป็นเพียงข้อเสนอแนะเรื่องความเสี่ยงต่อการทุจริตป้องกันการทุจริตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่ยังไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น ดังนั้นอยากให้รัฐบาลหนักแน่นเด็ดขาดในเรื่องนี้ จะทำหรือไม่ทำ ก็ตัดสินใจได้เลย ไม่ต้องกลับมาเริ่มนับหนึ่งใหม่แบบนี้ ในขณะที่ประชาชนก็เฝ้ารอมาตรการจากรัฐบาลที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งความเป็นไปได้เริ่มริบหรี่ลงไปทุกที รัฐบาลทำทุกวันนี้เหมือนเตะถ่วงเวลาไปเรื่อยๆ
น.ส.ศิริกัญญา ยังเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลลับที่ ป.ป.ช.ส่งมา เนื่องจากยังไม่ได้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะอย่างเป็นทางการ นอกเหนือจากเอกสารที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งอาจต้องรอให้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อน และยกเลิกการเป็นเอกสารลับ จึงจะสามารถดูรายงานฉบับนั้นได้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า กรณีรัฐบาลตั้งคณะกรรมการไปศึกษาเรื่องความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาและ ป.ป.ช. เป็นไปตามคาด สุดท้ายคือการซื้อเวลาซ้ำซาก เพราะรู้ตัวอยู่ลึกๆว่า โครงการนี้เสี่ยงซ้ำรอยทุจริตจำนำข้าว เสี่ยงทุจริต ผิดกฎหมาย เหมือนที่หลายฝ่ายได้ออกมาเตือนไว้
ส่วนหลัง 30 วันต้องรอดูว่ายังจะมีการอ้างเหตุอะไรออกมายื้ออีกหรือไม่ เพราะ 30 วันที่ศึกษาจะไปครบวันที่ 15 มีนาคม กว่าจะนัดประชุมกรรมการคิดจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ กว่าจะเข้า ครม. เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ กว่าจะส่งกฤษฎีกาพิจารณา กว่าจะบรรจุวาระ จะทันพิจารณาวาระ 1 ขั้นรับหลักการ ในสมัยประชุมนี้หรือไม่ เพราะสภาฯ จะปิดราววันที่ 9 เมษายน และกว่าสภาผู้แทนราษฏรและวุฒิสภาจะพิจารณาตามกระบวนการเสร็จสิ้นอีก โอกาสแจกได้ในเดือนพฤษภาคมตามไทม์ไลน์จึงดูเลือนลาง หมายความว่าประชาชนที่รัฐบาลอ้างว่าปากท้องกำลังวิกฤติก็ต้องรอต่อไป เพราะไทม์ไลน์มีไว้เลื่อน