นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชี้กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการพักโทษแล้วให้กลับมาอยู่บ้านจะสร้างความขัดแย้งให้กับประชาชนทั่วประเทศเรื่องความเป็นธรรมของกฎหมาย เพราะนายทักษิณทำผิดกฎหมายและถูกศาลตัดสินแล้ว แต่ไม่ต้องถูกจำคุกเลยแม้แต่วันเดียว
"ผมกล่าวหาได้เลยว่านายทักษิณเป็นตัวปัญหาที่สร้างความแตกแยกให้กับคนไทยทั้งประเทศ" นายกิตติศักดิ์ กล่าว
เรื่องนี้จะต้องมีการนำไปอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 153 ของวุฒิสภาในวันที่ 25 มี.ค.นี้อย่างแน่นอน แม้จะเสี่ยงต่อข้อกฎหมาย แต่เมื่อเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้แล้วก็ไม่ได้กังวล หากมีคนทำผิดละเมิดกฎหมายแล้วจะไม่พูดถึงเลยก็ไม่ควรที่จะมาปฏิบัติหน้าที่ตรงนี้
นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าหลังจากนี้ไปน่าจะมีนายกรัฐมนตรีมากกว่า 2 คน ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีนั้นตนไม่ได้ให้ราคาตั้งแต่แรก เพราะได้เข้ามารับตำแหน่งแบบบังเอิญ ซึ่งต่อไปจะกลายเป็นดาวที่ไร้แสง
ขณะที่ นายสมชาย แสวงการ สว. เชื่อว่ากรณีนี้อาจนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองมากขึ้น ดังนั้นขอให้ทุกฝ่ายเดินหน้าตรวจสอบใช้กระบวนการทางกฎหมาย เช่น คณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้รับเรื่องไว้เรียบร้อยแล้ว ในส่วนของนายทักษิณ คงไม่มีปัญหาเพราะใช้ช่องทางทางกฎหมาย แต่ส่วนที่ต้องถูกตรวจสอบ คือฝ่ายปฏิบัติซึ่งมีองค์ประกอบคือฝ่ายบริหาร คนที่เกี่ยวข้องคือนายกรัฐมนตรี รมว.ยุติธรรม ในฐานะผู้กำกับดูแลหน่วยราชการทั้งหมดจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
"การปฏิเสธไม่รับทราบ ไม่อยู่ในส่วนที่ไม่รับผิดทางกฎหมาย เป็นเรื่องที่ป.ป.ช. ต้องสอบ ก็มีคดีที่เคยเกิดขึ้นแล้ว กรณีจำนำข้าวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ส่วนที่ 2 คือกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ไล่ไปตั้งแต่ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ถ้าเรื่องนี้ใช้คณะกรรมการพักโทษ ก็ต้องไปดูว่าคณะกรรมการพิจารณาถูกต้องหรือไม่ ถ้าทำแล้วผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินคดีแบบจำนำข้าว ที่ข้าราชการทระทรวงพาณิชย์ตั้งแต่อธิบดีจนถึงผู้อำนวยการต้องติดคุก" นายสมชาย กล่าว
อีกส่วนที่ต้องรับผิดชอบคือโรงพยาบาลตำรวจ หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ปฏิเสธไม่ได้และใครจะปรับปรุง ปรุงแต่ง แก้ไข บิดเบือน ถือว่ามีความผิด หลักฐานสำคัญคือเวชทะเบียน การแถลงของแพทย์ใหญ่ที่ทำมาโดยตลอด แถลงว่าเจ็บป่วยต่อเนื่องร้ายแรง