นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง แถลงข่าวถึงร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับการเงินที่ยังไม่บรรจุในวาระการประชุมสภาฯ ว่า สถานะของร่าง พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ที่ยังรอนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ลงนามรับรอง มีทั้งหมด 31 ฉบับ
โดยฉบับที่รอความเห็นนานที่สุด คือ ร่าง พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ. ... ที่เสนอโดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ระยะเวลา 6 เดือน 11 วัน , ร่าง พ.ร.บ.ยกเลิก พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 พ.ศ. .... ที่เสนอโดยนายรอมฎอน ปันจอร์ ระยะเวลา 6 เดือน 4 วัน
นอกจากนี้ ไม่ได้มีแค่เพียงร่าง พ.ร.บ.ของฝ่ายค้านเท่านั้น แต่ยังมีร่าง พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมันและผลิตภัณฑ์จากปาล์มน้ำมัน พ.ศ. .... ที่เสนอโดยนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา 5 เดือน 25 วัน และร่าง พ.ร.บ.ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ พ.ศ. .... ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ระยะเวลา 4 เดือน 17 วัน
"กฎหมายที่เสนอโดย สส. ตอนนี้ทำได้เพียงเสนอกฎหมายที่ไม่ได้เป็นร่างการเงิน ซึ่งการตีความว่าเป็นทางการเงินนั้น ครอบคลุมได้หลายมิติมาก ไม่ว่าจะเป็นการเปิดกองทุน การเพิ่มภาระงานบางอย่าง เพราะฉะนั้น เรื่องนี้จะทำให้ผมอยากจะมีความเห็นต่อสาธารณะว่าเรามีความคิดว่า รัฐบาลต้องจริงใจกว่านี้ ในการส่งร่างทางการเงินเข้ามาถกเถียงที่สภา" นายปดิพัทธ์ กล่าว
พร้อมมองว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ สิ่งที่เรายืนยันชัดเจนว่าสภานิติบัญญัติ จะต้องไม่อยู่ใต้อาณัติของฝ่ายรัฐบาล แต่การพิจารณากฎหมาย ซึ่งเป็นงานที่ฝ่ายนิติบัญญัติทำได้นั้น กลับโดนปัญหาทางเทคนิคหรือไม่ ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ส่งความเห็นให้นายกรัฐมนตรี หรือทำเป็นไม่ส่งความเห็น เพื่อทำให้ร่างที่จะเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงหน่วยงานของตัวเองเป็นหมันไป
นายปดิพัทธ์ กล่าวต่อว่า วันพรุ่งนี้ (1 มี.ค.) ตน และสำนักรองประธานสภาฯ คนที่ 1 จะเดินทางไปทำเนียบรัฐบาล เพื่อพูดคุยปัญหาเรื่องนี้โดยตรง กับสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี