นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล กล่าวว่า ขณะนี้มีกฎหมายหลายฉบับ ที่หลายหน่วยงานต้องแสดงความคิดเห็นก่อนเสนอกฎหมายเข้ามา ซึ่งภายหลังสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี รับเรื่องจากกระทรวงที่แก้ไขกฎหมายแล้ว ก็จะต้องสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งร่างกฎหมายบางฉบับ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากกว่า 10 หน่วยงาน จึงทำให้เกิดความล่าช้า ไม่สามารถเสนอความเห็นเข้ามาทันตามกรอบเวลาที่กำหนดใน 2 สัปดาห์
"กฎหมายบางฉบับมีแค่เรื่องเดียว แต่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากกว่า 10 หน่วยงาน ซึ่งก็ติดปัญหาการไม่เสนอความคิดเห็นเข้ามา ทำให้หมดเวลาตามกรอบที่กำหนดไว้ภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการรอรับฟังความคิดเห็นนานถึง 2 สัปดาห์ บางหน่วยงานครบ 2 สัปดาห์ก็ยังไม่ส่งมา จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องไปเร่ง" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
พร้อมระบุว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ จะมีการพิจารณาร่างกฎหมาย 6 ฉบับที่ต้องเร่งรัด โดยไม่ได้เจาะจงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่นเดียวกับเรื่องร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งมีหลายประเด็น เช่น การปรับเปลี่ยนเวลาเพิ่มหรือลดการดื่มแอลกอฮอล์ หรือการติดฉลากห้ามเกี่ยวกับอันตราย ซึ่งมีหลายประเด็นต้องลงรายละเอียดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านออกมาเร่งกฎหมายที่ยังค้างอยู่ที่รัฐบาลนั้น นายสมศักดิ์ ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ได้ช้าเพราะกฎหมายของ สส. เมื่อพิจารณาแล้วเสร็จ ก็จะนำเข้าสู่ที่ประชุมทันที โดยที่ไม่ต้องรับฟังความคิดเห็น หรือจะทำประชาพิจารณ์ แต่ในส่วนของกฎหมายหน่วยงานราชการ จะต้องรับฟังประชาพิจารณ์มากกว่าหนึ่งครั้ง ดังนั้นเงื่อนไขในการทำกฏหมายแตกต่างกัน
"ถ้าเป็นกฎหมายการเงิน นายกรัฐมนตรีจะต้องรับฟังเสียงของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง จึงไม่ใช่เรื่องง่าย เหมือนพรรคการเมืองกับสภาผู้แทนราษฎร เพราะรัฐบาลต้องรับผิดชอบในเรื่องของงบประมาณที่ต้องตามมาอีก แต่ล่าสุดยอมรับว่า กฎหมายบางฉบับต้องล่าช้า เช่น การกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น ซึ่งทำมากว่า 20 ปีแล้วยังไปไม่ถึงไหน" รองนายกรัฐมนตรี ระบุ