นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ระบุในการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ (2024 ASEAN-Australia Special Summit) เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ ระหว่างวันที่ 4-6 มี.ค.67 มีนัดพูดคุยระดับทวิภาคีกับผู้นำหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น การหารือกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาในเรื่องที่คุยค้างกันไว้ เช่น การอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทั้งสองประเทศในการเดินทางไปมาหาสู่กัน การแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 รวมถึงเรื่องพื้นที่ทับซ้อน ส่วนการหารือกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะเป็นเรื่องการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การเปิดพรมแดนเพื่ออำนวยความสะดวกในการค้าขาย
สำหรับการเดินทางเยือนประเทศออสเตรเลียถือเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของไทย และจะมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนด้านการศึกษา การเกษตร และการดูแลคนไทยด้วย
หลังจากนั้นในวัน 6 มี.ค.67 จะเดินทางต่อไปยังกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี โดยไปถึงในช่วงเช้าเพื่อเข้าร่วมการประชุม ITB Berlin 2024 ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับเรื่องการท่องเที่ยว ส่วนช่วงบ่ายจะมีการหารือกับผู้บริหารบริษัท โฟล์คสวาแกน เกี่ยวกับการตั้งโรงงานที่จะมาตั้งที่ประเทศไทย
จากนั้นจะบินไปกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อพบปะกับนักธุรกิจฝรั่งเศส โดยจะมีการหารือกับกลุ่มผู้บริหารบริษัท แอร์บัส และผู้บริหารด้านแฟชั่น รวมถึงจะมีการพูดคุยเรื่องนำการแข่งขันฟอร์มูล่าวันมาแข่งขันที่ประเทศไทย
จากนั้นในวันที่ 11 มี.ค.67 จะมีการหารือกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส โดยจะมีการหารือแบบทวิภาคี จากนั้นจะเดินทางไปยังเมืองคานส์เพื่อไปดูงานนิทรรศการเกี่ยวกับ The MIPIM Awards ซึ่งเป็นการนำเมืองต่างๆ มาโชว์ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานและโปรเจ็คต่างๆ โดยในปี 2568 จะไปโรดโชว์เรื่องสนามบิน และหลายอย่างที่ประเทศไทยกำลังทำอยู่ เพื่อเชิญชวนนักลงทุนและชาวโลกให้รับทราบว่าประเทศไทยกำลังดำเนินการในด้านใดบ้าง
จากนั้นในวันที่ 13 มี.ค.67 จะเดินทางกลับไปที่ประเทศเยอรมนีอีกรอบ เพื่อหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีเยอรมนี แล้วจึงเดินทางกลับประเทศไทยในเวลา 13.00 น.ของวันที่ 14 มี.ค.67
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเดินทางไปต่างประเทศครั้งนี้จะนำสินค้าของไทยไปโปรโมทในต่างประเทศด้วย และจะมีการพูดคุยเรื่องวีซ่าเชงเก้นด้วย
ก่อนเดินทางไปปฏิบัติภารกิจ นายเศรษฐา ได้เรียกนางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง เข้าพูดคุยเรื่องการตัดเกรดผู้รับเหมา ที่ต้องอัพเกรดขึ้นเรื่อยๆ เพื่อพิจารณาไม่ให้ผู้รับเหมาทิ้งงาน เช่น กรณีการก่อสร้างถนนพระราม 2 ที่เกิดปัญหาขึ้น เพื่อให้สามารถควบคุมผู้รับเหมาให้ปฏิบัติตามสัญญา ไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน และเป็นการแก้ไขปัญหาโครงสร้าง