นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว) กล่าวถึงกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยกฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีโรดโชว์ "สร้างอนาคตประเทศไทย" ที่ทำให้มีการมองกันว่าอาจเป็นโมเดลเดินทางกลับประเทศ เหมือนนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายรัฐมนตรีว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังคงมีคดีที่ศาลฎีกา มีคำพิพากษาให้จำคุกแล้ว 5 ปี ซึ่งสามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ทุกเวลา แต่จะต้องยอมรับกระบวนการยุติธรรม และยอมรับโทษ 5 ปี เว้นแต่จะไปดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด
อย่างไรก็ดี การเข้าเกณฑ์การขอพักโทษ ซึ่งมีข้อสงสัย และข้อครหา ที่จะต้องมีการตรวจสอบระเบียบราชทัณฑ์ และกฎกระทรวงว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ จากกรณีที่นายทักษิณ ได้รับการพักโทษ ในขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อายุยังไม่เข้าเกณฑ์ และสุขภาพแข็งแรง เดินทางไปมาหลายประเทศได้ จึงไม่เข้าเงื่อนไข หากจะกลับประเทศเข้ารับโทษในเรือนจำ
"หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม และดำเนินการเหมือนนายทักษิณอีก ก็จะทำให้เกิดวิกฤตศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม" สว.สมชาย กล่าว
ทั้งนี้ สนับสนุนให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางกลับประเทศเพื่อรับโทษ และเมื่อเข้ารับโทษแล้ว จะขออภัยโทษหรือลดโทษ เหมือนนักโทษทั่วไป ก็เชื่อว่าสังคมจะยอมรับได้ แต่หากใช้วิธีพิเศษอีกก็จะเป็นวิกฤตซ้ำ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ไม่ควรนำกรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปเปรียบเทียบกับกรณีนายทักษิณ เพราะเป็นคนละคดีกัน ซึ่งหลายคดีก็ยุติไปแล้ว
ส่วนหากคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ เสร็จสิ้นแล้ว จะสามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้หรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่สามารถตอบแทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ ว่าอยากกลับมาประเทศไทยหรือยังอยู่ต่างประเทศ เพราะปัจจุบันบุตรชายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังศึกษาอยู่ที่ประเทศอังกฤษ
"เมื่อคดีจบแล้ว ก็ถือว่าไม่มีความผิด แต่เป็นเรื่องของความเข้าใจผิด แล้วจะไม่ให้โอกาสท่านได้กลับประเทศ แล้วมาตั้งคำถามว่า กลับมาแล้วจะมีผลทางการเมืองได้อย่างไร" นายภูมิธรรมกล่าว